16.12.08
Jun Sang & Yoo Jin
ในรถเมล์ จุนซาง ที่ย้ายโรงเรียนมาจากโซล มอง ยูจิน ที่นั่งด้านข้าง ด้วยสายตา ที่เย็นชา
ยูจินนั่งหลับในรถเมล์ตามเคย จุนซางเดินลงมาจากรถโดยไม่ปลุก แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ มาเคาะกระจกรถ ตรงที่ยูจินนั่ง ปลุก ยูจิน ช่างขี้เซาจริงๆ สาวน้อย ยูจิน
หนุ่มน้อย จุนซาง สีหน้าและแววตา ดูอบอุ่นขึ้น ตอนนี้เริ่มคล้ายๆ เบ ยองจุนแล้ว คิดอะไรอยู่ในใจคะจุนซาง
ละครและหนังเกาหลี หลายเรื่อง มีฉาก พระเอก นางเอกวิ่ง เป็นวัฒนธรรมละครรักเกาหลี
คุณ แชรีนคะ ตอนเป็นจุนซาง จุนซางไม่ได้แยแส คุณนะคะ เกรงใจ ผู้ชมภาพหน่อย คุณนอกบทแล้วค่ะ สายตาคนชม ชักร้อนผะผ่าว
ถ้าเป็นภาพนี้ พอรับได้ เล็กน้อย
แต่ภาพนี้ไม่เป็นไร เพราะยูจินเขาเป็นนางเอก
ยูจิน คะ ยังค่ะ ยังไม่ถ่ายทำละครค่ะ ฉากนี้ในละครไม่มีค่ะ แหม..อิจฉาจัง
Memory In 10 Years
Episode -3
คำพูดสุดท้าย ของจุนซาง ในขณะถูกรถชน คือ ยูจิน
ยูจิน มาโรงเรียนสายตามเคย ระหว่างทางก็เดินพูดกับตัวเองคนเดียวทั้งกังวลว่าทำไมจุนซางไม่ไปตามนัด โมโหที่ทำไมจุนซางไม่โทรบอกว่าไปตามนัดไม่ได้ และคิดหาคำพูดที่จะบอก จุนซางว่า เธอเอง ไม่ได้ไปตามนัด เมื่อเข้าไปในห้องเรียน ก็แปลกใจกับเพื่อนๆในห้องอยู่ในอาการเศร้าโศก บางคนร้องไห้
Bad news :
Yoo-jin : What's wrong? What's the matter? What is it?
Jin-sook : Yoo-jin. Jun-sang ... Jun-sang is dead.
Yoo-jin : What are you talking about? What are you talking about?
Chea-reen : It's true. He died in a car accident.
Yoo-jin : It can't be.
Sang-hyuk : Yoo-jin. Yoo-jin! Yoo-jin.
Yoo-jin : I have to hurry.
Sang-hyuk : Where are you going?
Yoo-jin : I have to tell him something. I need to tell Jun-sang something. I promised to meet Jun-sang. I promised him that I would remember him. I have to tell him something. I need to Jun-sang now! What am I going to do? I can't remember his face. I can't remember what Jun-sang looked like. What am I going to do?
ซังฮวก รีบคว้าตัวยูจิน ที่วิ่งออกจากห้องเรียนไว้
ยูจินอยากจะไปดูจุนซาง ให้เห็นกับตา ยูจิน พร่ำพูดว่า
“ ฉันมีอะไรต้องบอกเขา ฉันมีเรื่องต้องบอก จุนซาง ฉันสัญญาจะไปเจอจุนซาง น่ะ เข้าใจไหม ฉันสัญญากับจุนซางไว้ว่าจะไม่มีวันลืมเขาไปชั่วชีวิต ฉันต้องไปบอกเขา ฉันต้องไปหาเขา เดี๋ยวนี้ ฉันจะทำอย่างไรดีตอนนี้ฉันนึกอะไรไม่ออกเลยแม้แต่ใบหน้าของ จุนซาง ฉันจำเขาไม่ได้ ซังฮวก ฉันจะทำยังไงดี ฉันจำไม่ได้ว่าเขาหน้าตาอย่างไร “
ยูจินพูดไปน้ำตาไหลริน ทรุดลงไปกองกับพื้น
ในวันทำพิธีศพของ จุนซาง ยูจิน กับเพื่อนนักเรียนไม่สามารถไปร่วมงานที่กรุงโซลได้ ทั้งหมดจึงจัดงานศพให้ จุนซาง ที่ริมทะเลสาบ ชุนชง ไม่มีใครมีของที่ จุนซาง ทิ้งไว้ให้เลย ราวกับ จุนซางไม่เคยมีตัวตนอยู่ในโลกนี้มาก่อน ไม่มีอะไรเหลือไว้เลย และจากพวกเขาไปยังดินแดนอันไกลแสนไกล
Funeral:
Jin-sook : We should burn something to remember him on his funeral day.
Yong-kook : Come to think of it, we don't have anything that belonged to Jun-sang. Nothing. Let's just burn this..... Jun-sang, Goodbye!
Chea-reen : Yoo-jin, how could you be so cold? How could you act like nothing had happened? Jun-sang died when he was going out to meet you. How can you do this to him? How can you ...
ยูจินไม่ได้ร้องไห้ ในงานพิธีศพของ จุนซางเลย ไม่มีใครรู้ว่าในใจ ยูจินคิดอะไรอยู่ ยูจิน เรียกชื่อจุนซาง เบาๆ แต่ไม่ได้ยินเสียงขานตอบ ยูจิน ซึ่งเก็บซ่อนจุนซางไว้ในส่วนลึกของหัวใจ เริ่มยอมรับความจริงในชั่วขณะนั้นว่า ต่อไปเธอคงจะร้องเรียก จุนซาง ได้เพียงในหัวใจเท่านั้น
ยูจิน พร่ำเรียกชื่อ จุนซาง นับร้อยนับพันครั้งในหัวใจของเธอ
“จุนซาง ฉันรู้ดีว่าเธอไม่ได้จากฉันไปใช่ไหม เธอพูดสิ จุนซาง ไม่ว่าเธอจะจากฉันไปหรือไม่ก็ตาม โปรดอย่าได้แต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ฉันไม่มีทางลืมเธอได้ “
ยูจิน รู้สึกว่าถ้าหากเธอร้องไห้ละก้อ คงจะเหมือนกับว่า จุนซาง ได้จากเธอไปจริงๆ ยูจิน จึงกัดฟันแน่น หักห้ามความเสียใจไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา
ซังฮวกพา ยูจินกลับบ้านและบอก ยูจินว่า
ยูจิน เธอร้องไห้ออกมาเถอะ ฉันอยากเห็นเธอร้องไห้ออกมามากว่า ทำแบบนั้นเธอถึงจะลืม จุนซางได้
ยูจิน ได้แต่ตอบซังฮวกในใจว่า เธอว่าอะไรนะ ถ้าร้องไห้แล้วจะลืม จุนซางได้อย่างนั้นหรือ ไม่ใช่ ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ฉันเก็บรักษา จุนซาง ไว้ในหัวใจ ถ้าหากฉันร้องไห้ออกมาละก็ จุนซาง ก็จะเศร้าเสียใจร้องไห้ไปด้วย ฉันไม่มีทางทำให้ จุนซาง ที่ตายไปแล้วร้องไห้อีก
( โธ่เอ๋ย.......ยูจิน ...ของจุนซาง )
ยูจินเดินเข้าบ้านหายใจลึกๆ เพื่อไม่ให้ร้องไห้ออกมา
มีห่อพัสดุไปรษณีย์ วางอยู่บนโต๊ะ ยุจิน แกะออกดูอย่างเชื่องช้า เป็นเทป Cassette เธอใส่เทป ลงในเครื่องเล่น มีเสียงเพลงบรรเลงเปียโน ดังขึ้น
นั่นเป็นเพลง The First time ที่จุนซางเคยเล่นให้เธอฟัง เธอคิดว่าคงจะไม่มีโอกาสได้ฟังเพลงนี้ของจุนซางแล้ว แต่ขณะนี้ เธอก็ยังได้ฟังอีก ยูจินเห็นภาพวันที่จุนซางเล่นเปียโน ในห้องซ้อมดนตรี
วันที่จุนซางเล่นเปียโนให้ฉันฟัง เหมือนเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง ภาพของเขายังอยู่ในใจฉันอย่างชัดเจนเหลือเกิน แต่เดี่ยวนี้ทุกคนกลับบอกว่า จุนซาง ไม่อยู่อีกแล้ว บอกว่าเขาตายไปแล้ว ต่อไปจะไม่ได้พบเขาอีก ....
ยูจิน ฟังเพลง The First Time พร้อมกับพูดคุยกับ จุนซาง ในความทรงจำของเธอไปด้วย เสียงของเขา รอยยิ้มของเขา และจุมพิตแรกของเขา....จุนซาง ที่เคยเฝ้าปกป้องเธอ จุนซาง ที่เคยบอกว่าเวลาหลงทางขอเพียงหาดาว Polaris ให้พบก็จะไม่เป็นไร จุนซาง ที่เคยบอกว่าจะเป็นเหมือน ดาว Polaris คอยอยู่ข้างกายเธอนั้น บัดนี้ไม่อยู่เสียแล้ว ดาว Polaris สำหรับ ยูจิน ในเวลานี้ดับสูญไปแล้ว
รักแรกของเธอจากไปแล้ว
มีเสียงของ จุนซาง หัวเราะ บอกว่า surprise ของขวัญสำหรับเธอนะ Merry Christmas แว่วมาจากเครื่องเสียงขณะที่เพลงบรรเลงเปียโนใกล้จะจบ
ยูจิน ที่นั่งฟังเพลงโดยไม่ขยับเขยื้อนเลย เมื่อถึงตอนนี้ น้ำตาไหลพรากลงมาอาบใบหน้าอย่างไม่อาจหยุดยั้ง
ยูจินปล่อยให้น้ำตาไหลรินลงมาโดยไม่เช็ดออก เธอรู้สึกปวดร้าว หัวใจของเธอประหนึ่งกำลังจะแหลกสลายมลายลงเป็นผงธุลี เพราะความทุกข์ทรมาน ในครั้งนี้....โอ้ จุนซาง ของ ยูจิน
ยูจิน ฟุบลงกับโต๊ะ เจ็บปวดแทบขาดใจ
ในขณะที่ยูจิน กำลังนั่งฟังเพลง The First time นี้ มีโคมไฟสว่างตั้งบนโต๊ะเป็นเพื่อนในจอแก้ว แต่พวกเราคนชม จะได้ยิน เพลง My Memory สื่อความ ที่บรรยายข้างต้น แทน
My memory
ในความทรงจำของฉัน ฉันจำได้ทุกช่วงเวลาของสองเรา
แม้ยามเมื่อฉันหลับตาลง ภาพแห่งความหลังยังคงชัดเจน
แต่เธออยู่ห่างไกลเกินไขว่คว้า จึงมิอาจบอกเธอได้ว่า
ฉันเคยรักเธอ หรือว่า ฉันจะเฝ้ารอคอยเธอกลับมา
* ฉันไม่รู้จริงๆที่รัก ว่าฉันจะได้พบเธอเหมือนเช่นเคยหรือไม่
ไม่กล้าแม้แต่จะคิดหวัง แต่ฉันยังรักเธอและจะรักเธอตลอดไป
ถ้าแม้ยังไม่สายเกินไป ตราบนานเท่านาน
ความรักเกิดขึ้นในใจฉันนานมาแล้ว แล้วเธอจะอยู่ไกลแสนไกล
แต่เธอยังคงอยู่ในใจของฉันเสมอ
(ซ้ำ * ) โดย connect
คำพูดสุดท้าย ของจุนซาง ในขณะถูกรถชน คือ ยูจิน
ยูจิน มาโรงเรียนสายตามเคย ระหว่างทางก็เดินพูดกับตัวเองคนเดียวทั้งกังวลว่าทำไมจุนซางไม่ไปตามนัด โมโหที่ทำไมจุนซางไม่โทรบอกว่าไปตามนัดไม่ได้ และคิดหาคำพูดที่จะบอก จุนซางว่า เธอเอง ไม่ได้ไปตามนัด เมื่อเข้าไปในห้องเรียน ก็แปลกใจกับเพื่อนๆในห้องอยู่ในอาการเศร้าโศก บางคนร้องไห้
Bad news :
Yoo-jin : What's wrong? What's the matter? What is it?
Jin-sook : Yoo-jin. Jun-sang ... Jun-sang is dead.
Yoo-jin : What are you talking about? What are you talking about?
Chea-reen : It's true. He died in a car accident.
Yoo-jin : It can't be.
Sang-hyuk : Yoo-jin. Yoo-jin! Yoo-jin.
Yoo-jin : I have to hurry.
Sang-hyuk : Where are you going?
Yoo-jin : I have to tell him something. I need to tell Jun-sang something. I promised to meet Jun-sang. I promised him that I would remember him. I have to tell him something. I need to Jun-sang now! What am I going to do? I can't remember his face. I can't remember what Jun-sang looked like. What am I going to do?
ซังฮวก รีบคว้าตัวยูจิน ที่วิ่งออกจากห้องเรียนไว้
ยูจินอยากจะไปดูจุนซาง ให้เห็นกับตา ยูจิน พร่ำพูดว่า
“ ฉันมีอะไรต้องบอกเขา ฉันมีเรื่องต้องบอก จุนซาง ฉันสัญญาจะไปเจอจุนซาง น่ะ เข้าใจไหม ฉันสัญญากับจุนซางไว้ว่าจะไม่มีวันลืมเขาไปชั่วชีวิต ฉันต้องไปบอกเขา ฉันต้องไปหาเขา เดี๋ยวนี้ ฉันจะทำอย่างไรดีตอนนี้ฉันนึกอะไรไม่ออกเลยแม้แต่ใบหน้าของ จุนซาง ฉันจำเขาไม่ได้ ซังฮวก ฉันจะทำยังไงดี ฉันจำไม่ได้ว่าเขาหน้าตาอย่างไร “
ยูจินพูดไปน้ำตาไหลริน ทรุดลงไปกองกับพื้น
ในวันทำพิธีศพของ จุนซาง ยูจิน กับเพื่อนนักเรียนไม่สามารถไปร่วมงานที่กรุงโซลได้ ทั้งหมดจึงจัดงานศพให้ จุนซาง ที่ริมทะเลสาบ ชุนชง ไม่มีใครมีของที่ จุนซาง ทิ้งไว้ให้เลย ราวกับ จุนซางไม่เคยมีตัวตนอยู่ในโลกนี้มาก่อน ไม่มีอะไรเหลือไว้เลย และจากพวกเขาไปยังดินแดนอันไกลแสนไกล
Funeral:
Jin-sook : We should burn something to remember him on his funeral day.
Yong-kook : Come to think of it, we don't have anything that belonged to Jun-sang. Nothing. Let's just burn this..... Jun-sang, Goodbye!
Chea-reen : Yoo-jin, how could you be so cold? How could you act like nothing had happened? Jun-sang died when he was going out to meet you. How can you do this to him? How can you ...
ยูจินไม่ได้ร้องไห้ ในงานพิธีศพของ จุนซางเลย ไม่มีใครรู้ว่าในใจ ยูจินคิดอะไรอยู่ ยูจิน เรียกชื่อจุนซาง เบาๆ แต่ไม่ได้ยินเสียงขานตอบ ยูจิน ซึ่งเก็บซ่อนจุนซางไว้ในส่วนลึกของหัวใจ เริ่มยอมรับความจริงในชั่วขณะนั้นว่า ต่อไปเธอคงจะร้องเรียก จุนซาง ได้เพียงในหัวใจเท่านั้น
ยูจิน พร่ำเรียกชื่อ จุนซาง นับร้อยนับพันครั้งในหัวใจของเธอ
“จุนซาง ฉันรู้ดีว่าเธอไม่ได้จากฉันไปใช่ไหม เธอพูดสิ จุนซาง ไม่ว่าเธอจะจากฉันไปหรือไม่ก็ตาม โปรดอย่าได้แต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ฉันไม่มีทางลืมเธอได้ “
ยูจิน รู้สึกว่าถ้าหากเธอร้องไห้ละก้อ คงจะเหมือนกับว่า จุนซาง ได้จากเธอไปจริงๆ ยูจิน จึงกัดฟันแน่น หักห้ามความเสียใจไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา
ซังฮวกพา ยูจินกลับบ้านและบอก ยูจินว่า
ยูจิน เธอร้องไห้ออกมาเถอะ ฉันอยากเห็นเธอร้องไห้ออกมามากว่า ทำแบบนั้นเธอถึงจะลืม จุนซางได้
ยูจิน ได้แต่ตอบซังฮวกในใจว่า เธอว่าอะไรนะ ถ้าร้องไห้แล้วจะลืม จุนซางได้อย่างนั้นหรือ ไม่ใช่ ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ฉันเก็บรักษา จุนซาง ไว้ในหัวใจ ถ้าหากฉันร้องไห้ออกมาละก็ จุนซาง ก็จะเศร้าเสียใจร้องไห้ไปด้วย ฉันไม่มีทางทำให้ จุนซาง ที่ตายไปแล้วร้องไห้อีก
( โธ่เอ๋ย.......ยูจิน ...ของจุนซาง )
ยูจินเดินเข้าบ้านหายใจลึกๆ เพื่อไม่ให้ร้องไห้ออกมา
มีห่อพัสดุไปรษณีย์ วางอยู่บนโต๊ะ ยุจิน แกะออกดูอย่างเชื่องช้า เป็นเทป Cassette เธอใส่เทป ลงในเครื่องเล่น มีเสียงเพลงบรรเลงเปียโน ดังขึ้น
นั่นเป็นเพลง The First time ที่จุนซางเคยเล่นให้เธอฟัง เธอคิดว่าคงจะไม่มีโอกาสได้ฟังเพลงนี้ของจุนซางแล้ว แต่ขณะนี้ เธอก็ยังได้ฟังอีก ยูจินเห็นภาพวันที่จุนซางเล่นเปียโน ในห้องซ้อมดนตรี
วันที่จุนซางเล่นเปียโนให้ฉันฟัง เหมือนเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง ภาพของเขายังอยู่ในใจฉันอย่างชัดเจนเหลือเกิน แต่เดี่ยวนี้ทุกคนกลับบอกว่า จุนซาง ไม่อยู่อีกแล้ว บอกว่าเขาตายไปแล้ว ต่อไปจะไม่ได้พบเขาอีก ....
ยูจิน ฟังเพลง The First Time พร้อมกับพูดคุยกับ จุนซาง ในความทรงจำของเธอไปด้วย เสียงของเขา รอยยิ้มของเขา และจุมพิตแรกของเขา....จุนซาง ที่เคยเฝ้าปกป้องเธอ จุนซาง ที่เคยบอกว่าเวลาหลงทางขอเพียงหาดาว Polaris ให้พบก็จะไม่เป็นไร จุนซาง ที่เคยบอกว่าจะเป็นเหมือน ดาว Polaris คอยอยู่ข้างกายเธอนั้น บัดนี้ไม่อยู่เสียแล้ว ดาว Polaris สำหรับ ยูจิน ในเวลานี้ดับสูญไปแล้ว
รักแรกของเธอจากไปแล้ว
มีเสียงของ จุนซาง หัวเราะ บอกว่า surprise ของขวัญสำหรับเธอนะ Merry Christmas แว่วมาจากเครื่องเสียงขณะที่เพลงบรรเลงเปียโนใกล้จะจบ
ยูจิน ที่นั่งฟังเพลงโดยไม่ขยับเขยื้อนเลย เมื่อถึงตอนนี้ น้ำตาไหลพรากลงมาอาบใบหน้าอย่างไม่อาจหยุดยั้ง
ยูจินปล่อยให้น้ำตาไหลรินลงมาโดยไม่เช็ดออก เธอรู้สึกปวดร้าว หัวใจของเธอประหนึ่งกำลังจะแหลกสลายมลายลงเป็นผงธุลี เพราะความทุกข์ทรมาน ในครั้งนี้....โอ้ จุนซาง ของ ยูจิน
ยูจิน ฟุบลงกับโต๊ะ เจ็บปวดแทบขาดใจ
ในขณะที่ยูจิน กำลังนั่งฟังเพลง The First time นี้ มีโคมไฟสว่างตั้งบนโต๊ะเป็นเพื่อนในจอแก้ว แต่พวกเราคนชม จะได้ยิน เพลง My Memory สื่อความ ที่บรรยายข้างต้น แทน
My memory
ในความทรงจำของฉัน ฉันจำได้ทุกช่วงเวลาของสองเรา
แม้ยามเมื่อฉันหลับตาลง ภาพแห่งความหลังยังคงชัดเจน
แต่เธออยู่ห่างไกลเกินไขว่คว้า จึงมิอาจบอกเธอได้ว่า
ฉันเคยรักเธอ หรือว่า ฉันจะเฝ้ารอคอยเธอกลับมา
* ฉันไม่รู้จริงๆที่รัก ว่าฉันจะได้พบเธอเหมือนเช่นเคยหรือไม่
ไม่กล้าแม้แต่จะคิดหวัง แต่ฉันยังรักเธอและจะรักเธอตลอดไป
ถ้าแม้ยังไม่สายเกินไป ตราบนานเท่านาน
ความรักเกิดขึ้นในใจฉันนานมาแล้ว แล้วเธอจะอยู่ไกลแสนไกล
แต่เธอยังคงอยู่ในใจของฉันเสมอ
(ซ้ำ * ) โดย connect
My Memory - Ryu
My memory.
I remember every second of it.
Even for trivial things, if I close my eyes, I can still see them.
You're far away.
I couldn't tell you that I am still in love with you, still waiting for you.
*It is not even in my dream that I thought we could meet again like this.
Therefore, I have to be frank with you:
I am still in love with you.
I wanna love you forever.
If it is not too late for our fate, I wish I could stay with you forever.For a ling time, you have been alive in my heart.
No matter how long we have parted, no matter how far you are, you are always in my heart.
และแล้วฤดูใบไม้ผลิก็กลับมาเยือน แต่ยูจินกลับมีแต่ความเศร้า
เหลืออยู่แต่ความทรงจำ โดยเฉพาะ หิมะแรกของฤดู และความรักที่มีต่อจุนซาง
ตรงนี้ควรเป็นภาพ ที่ จุนซาง ถือรองเท้านักเรียน ให้ยูจิน สวม
นี่คือความทรงจำ ของ 10 ปี ที่ผ่านมาของ ยูจิน
ยูจินเป็นมัณฑนากร ตั้งบริษัทตกแต่งภายใน ชื่อ Polaris กับเพื่อนร่วมงานอีก 2 คน
เช้าวันหมั้น ยูจิน ต้องไปบริษัทมาเซียน ที่ Polaris จะเข้าร่วมงาน ในการปรับปรุง สกีรีสอร์ท ยูจินไปเพื่อมอบแปลนให้กับสถาปนิกที่มาเซียน จินซุก ที่ยังไม่มีงานทำและมาอยู่ด้วย บอกข่าวดี ว่า วันนี้จะมี หิมะแรก
ตอนเย็นยูจิน แวะร้านทำผมเตรียมตัวสำหรับงานหมั้น แล้วก็ได้พบใครคนหนึ่ง
........................วันนี้หิมะแรก เธอทำให้ความฝันของฉันกลับเป็นจริงขึ้นมา ฉันหวังว่าคงจะไม่ใช่แค่ความฝัน ที่ฉันเห็นเธอ ที่ Daehakro ขอให้เป็นเธอจริงๆเถอะจุนซาง ต่อให้แลกด้วยอะไร ฉันก็ยอม เธออยู่ที่ไหนนะจุนซาง ตอนนี้เธออยู่ไหน ?....
ซังฮวก ออกไปตามหา ยูจิน
ในช่วงเวลาที่ยูจิน เที่ยวเดินมองหา จุนซาง นั้น จะมีเพลง From the beginning to now
( โช-อึม-โบ-โท-จี-กิม-กาจี) จากวันนั้นถึงวันนี้ ขับร้องโดย Ryu
มีคำแปลไทยของ โดย Connect คุณ Roytavan จะกรุณาแปลให้ใหม่ไหมคะ
From the Beginning to now : จากวันนั้นถึงวันนี้
เพียงเธอกล่าวว่าเธออาจจะไม่กลับมาหาฉันอีก
โปรดอย่ากล่าวเช่นนั้นเลย เห็นใจฉันเถิด
* ใจจริงฉันต้องการจะลืมทุกสิ่ง ถ้าฉันจะไม่มีโอกาส
ได้พบเธออีก ทว่าทุกสิ่งในตัวเธอยังตราตรึงอยู่ในใจฉัน
** เพราะทุกครั้งที่ฉันอยากหัวเราะเธอกลับทำให้ฉันร้องไห้
ฉันล้มเหลวในทุกสิ่งก็เพราะเธอเพราะเมื่อใดที่ฉันต้องการพบเธอ
หัวใจฉันต้องแหลกสลาย ไม่ว่าฉันจะพยายามเพียงใด
ก็มิอาจลืมเธอได้ลง
(ซ้ำ* ,**)
ฉันไม่เคยคิดเลยว่ารักนั้นจะทรมานนัก
(ซ้ำ **)
*A: You won't return to my side. It's impossible now.
*C: Every time I want to smile, you let me cry.
*D: I never know it is so hard to love someone.
คืนนั้นเมื่อกลับมา ยูจิน เอาภาพเสก๊ตช์ ของ จุนซาง ออกมาเผาทิ้ง จุนซาง ในกลางแสงไฟ ที่ค่อยๆไหม้ลามเลีย ยังคงยิ้มน้อยๆให้ ยูจิน เช่นเคย ยูจิน คิดว่า หากเอาภาพวาดของ จุนซาง ที่เก็บรักษาไว้นานมากมาเผาทิ้ง บางที จุนซาง จะออกไปจากความทรงจำของเธอได้
ฉันเข้าใจดีว่าเธอไม่อาจมาอยู่ต่อหน้าฉันอีกแล้ว ถึงแม้ฉันจะมั่นใจแค่ไหน แต่ฉันไม่อาจรับความจริงที่ว่าเธอจากไปแล้ว ฉันไม่มีวันลืมแววตาของเธอ เธอต้องอยู่คนเดียวในอีกโลกหนึ่งที่ไม่คุ้นเคย เธอคงจะอ้างว้างเดียวดายอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เป็นเพราะฉันไม่เคยลืมเธอ จึงทำให้คนรอบข้างต้องทุกข์ใจ ฉันจึงตัดสินใจที่จะลืมเธอไปเสีย นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ฉันจะไม่คิดถึงเธออีกเลย ลาก่อน.... จุนซาง
แชรีน ที่ไปฝรั่งเศสกำลังจะกลับมาเกาหลี เพื่อนๆ จึง ช่วยกันจัดพิธีหมั้นให้ ยูจิน และซังฮวก ใหม่ ที่โรงเรียนมัธยม ที่ชุนชง หลังสวมแหวนหมั้น ทุกคนไปที่ห้องกระจายเสียง แชรีน มาถึง มอบช่อดอกไม้ให้ ชิงซุก หยิบได้แผ่นเพลง The First Time จึงนำมาเปิดเพราะจำได้ว่า ยูจินชอบเปิดเพลงนี้บ่อยๆ แต่ ยูจินอยากให้เปิดเพลงอื่น
ทุกคน นั่งเงียบงัน ฟังเพลง The First Time
Jun-sang? appears:
Min-hyung : I was caught in the traffic.
Chea-reen : Come in, it's cold, isn't it? Let me introduce him to you.
Min-hyung : How do you do?
Chea-reen : There are my friends who are getting engaged today.
Min-hyung : I see. Congratulations. .....
ขณะที่ยูจินกำลังมองภาพจิ๊กซอว์ ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว ก็ได้ยินเสียงประตูเปิด แล้วร่างของ จุนซาง ก็มาปรากฏเบื้องหน้าของยูจิน ราวกับมีคนร่ายเวทย์มนตร์ให้เธอ นี่แหละรักแรกที่เธอเฝ้ารำลึกอยู่ทุกคืนวัน จุนซาง เขามายืนอยู่เบื้องหน้ายูจิน อย่างเป็นตัวเป็นตนจริงๆ
หิมะแรกของฤดู อีก 10 ปี ต่อมา สายลมหนาวเริ่มพัดโบก นำพาความรักครั้งที่สองมาสู่ยูจิน
Pupy love รักในวัยเยาว์ วัยที่สดในบริสุทธิ์ สวยงาม อ่อนหวาน ช่วยเหลือห่วงใยซึ่งกันและกัน ของนักเรียนชั้น ม.ปลาย อายุ 18 ปี ของจุนซาง และยูจิน จูบแรกที่แสนน่ารักน่าเอ็นดู
จาก pupy love หยั่งรากลึกเป็น รักแรก First love และ หลายอย่างที่เป็น The first time ของ จุนซาง และยูจิน ยิ่งทำให้ Fisrt Love นี้ ลึกล้ำ ลงไปในห้วงดวงใจของยูจิน ( แน่นอนที่สุด เพราะ จุนซาง ผู้โดดเดี่ยว มีปมในใจ แต่กับยูจินแล้ว จุนซางน่ารักมากจริงๆ อิจฉา ยูจิน เหลือเกิน จนคุณ Theater ไม่เป็น ซูจินี แล้ว ขอเป็น ยูจิน ดีกว่า อึม....)
ไม่เพียงแต่ First Love ของ จุนซาง และยูจิน เท่านั้น ยังเป็น first love ของ ซังฮวก ที่หยั่งรากมั่นคงไม่สั่นคลอน ต่อยูจิน แชรีน ที่มีต่อ จุนซาง และ คังมุยฮี แม่ของ จุนซาง ที่มีต่อ จุงซินเจา พ่อ ของยูจิน แม้ละครจะจบ ลง 20 ตอน รักแรก ที่แม้จะไม่สมหวังนี้ ยังคงตราตรึง อยู่ในดวงใจ ของ คังมุยฮี ซังฮวก และ แชรีน ไม่แปรผันเป็นอื่น
สำหรับ ยูจินในชีวิตของเธอ เมื่อมีรักแรกแล้ว ก็เป็นรักเดียวในชีวิต แม้คนรักจะตายจากไป แต่เขาก็ยัง สนิทแนบแน่นอยู่ในความทรงจำของเธอ ไม่เจือจางไม่ห่างหาย
อย่าเพิ่งเบื่อหน่าย นะคะ คนเล่า จะไม่เล่าครบ 20 ตอน เพราะ WLS เป็นละครที่อยู่ในหัวใจ ในความทรงจำของครอบครัว ยงจุน มากที่สุด หลับตาทุกคนก็เห็นภาพของละครโลดแล่นเคลื่อนไหวได้ทั้ง 20 ตอน เสียงเจรจาของจุนซาง ยูจิน และ ลีมินฮุง ก้องในโสตประสาท ของเกือบทุกท่านอยู่แล้ว แต่กับสมาชิกใหม่ที่เพิ่งชอบยงจุน เพราะ the legend และยังไม่ได้ชมเรื่องนี้ ก็ยังมี คนเล่า ก็เลยขอเล่า เฉพาะ ตอนหรือบท ที่ตัวเองชอบ ตามประสา คนที่ชอบทำอะไรๆ ตามใจตัวเอง เช่นเคย ขอใช้ อภิสิทธิ์ ความเป็น ส.ว .ระบบ ปาร์ตี้ ลิสต์ ค่ะ
นี่คือความทรงจำ ของ 10 ปี ที่ผ่านมาของ ยูจิน
ตอนนี้พวกเขา อายุ 28 ปี กันแล้ว
ยูจินเป็นมัณฑนากร ตั้งบริษัทตกแต่งภายใน ชื่อ Polaris กับเพื่อนร่วมงานอีก 2 คน
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ซังฮวกไม่เคยไปที่อื่น ซังฮวก อยู่เคียงข้าง ยูจิน มาโดยตลอด ซังฮวกไม่เคยเสียใจที่หลงรัก ยูจิน ถึงจะทำได้เพียงอยู่ข้างกายของ ยูจิน ให้ไหล่ของเขาเป็นที่พักพิงของ ยูจินในยามที่เธอโศกเศร้า ซังฮวก ไม่เคยเสียใจเลย สิบปีที่ผ่านมา เป็นสิบปีที่ ยูจิน ยังเฝ้าคะนึงถึง จุนซางทุกคืนวัน ยูจิน ตัดสินใจที่จะหมั้นกับ ซังฮวก โดยปราศจากความรัก เธอไม่เคยลืม จุนซาง เลยสักครั้งแม้ว่าจะพยายามสะกดไว้ข้างใน
เช้าวันหมั้น ยูจิน ต้องไปบริษัทมาเซียน ที่ Polaris จะเข้าร่วมงาน ในการปรับปรุง สกีรีสอร์ท ยูจินไปเพื่อมอบแปลนให้กับสถาปนิกที่มาเซียน จินซุก ที่ยังไม่มีงานทำและมาอยู่ด้วย บอกข่าวดี ว่า วันนี้จะมี หิมะแรก
เมื่อไปถึงบริษัท ที่กำลังวุ่นวาย จัด Office ใหม่ เพราะกรรมการบริหารคนใหม่ มี คนถือแผ่นภาพจิ๊กซอว์ที่ยังต่อไม่เสร็จเดินเข้ามา ซึ่งคุณคิม ไม่เข้าใจว่า ทำไมคนถึงชอบต่อจี๊กซอว์กันนัก
ยูจิน มองภาพจิ๊กซอว์ที่ยังต่อไม่เสร็จ พลางบอกว่า คงเป็นเพราะ เบื่อหรือไม่ ก็ เป็นเพราะเป็นคนที่มีความทรงจำ มากมาย เขาเอาความทรงจำทีละชิ้นมาเรียงต่อกัน
คุณคิมรับเอกสารไว้แทน เมื่อจะกลับออกมาจากมาเซียน ยูจิน พบจิ๊กซอว์ ตัวหนึ่งหล่นที่พื้นของบริษัท ยูจินเก็บขึ้นมาและคิดว่าค่อยเอามาคืนวันหลัง
ตอนเย็นยูจิน แวะร้านทำผมเตรียมตัวสำหรับงานหมั้น แล้วก็ได้พบใครคนหนึ่ง
ใครคนนั้นที่เหมือน จุนซาง และเธอพบเมื่อเช้านี้ หิมะแรกของฤดูในปีนี้ กำลังโปรยปรายลงมา ยูจิน ตาม เขาคนนั้นไป และคิดว่า จุนซางเขามาแล้ว เขากลับมาแล้ว ยูจิน ลืมงานหมั้นของตนเอง จนแขกเหรื่อที่มางานเริ่มลากลับ ยูจิน คลาดกับเขาคนนั้น เมื่อยูจินกลับมาที่งานหมั้น ก็เป็นลมต่อหน้าทุกคน
หลังจาก ยูจินไปขอโทษแม่ของ ซังฮวก
หลังจาก ยูจินไปขอโทษแม่ของ ซังฮวก
ยูจินกลับมาที่บ้าน หยิบภาพวาดของ จุนซางออกมาดูและหยิบเทป cassette ของจุนซาง มาเปิดฟังและเขียนข้อความลงในกระดาษ
ซึ่งต่อมา ซังฮวก ได้เข้ามาเห็นข้อความนี้ในห้องของ ยูจิน เมื่อไปหายูจินในตอนค่ำ ตั้งใจจะเข้า ไปเขียนข้อความถึงยูจิน ในห้องของเธอ
ซึ่งต่อมา ซังฮวก ได้เข้ามาเห็นข้อความนี้ในห้องของ ยูจิน เมื่อไปหายูจินในตอนค่ำ ตั้งใจจะเข้า ไปเขียนข้อความถึงยูจิน ในห้องของเธอ
Was I dreaming when I saw you? I still remember everything. I remember you playing the piano for me. I remember the sunset in the lake where we used to walk. I still remember you used to smile at me when holding my hand. I still remember ... I always prayed to God that I wanted to see your similes again. Maybe the first snow had made my dream come true. I hope I wasn't the only one dreaming in Daehakro that night when I saw you. Jun-sang, where are you? Where are you now?"
........................วันนี้หิมะแรก เธอทำให้ความฝันของฉันกลับเป็นจริงขึ้นมา ฉันหวังว่าคงจะไม่ใช่แค่ความฝัน ที่ฉันเห็นเธอ ที่ Daehakro ขอให้เป็นเธอจริงๆเถอะจุนซาง ต่อให้แลกด้วยอะไร ฉันก็ยอม เธออยู่ที่ไหนนะจุนซาง ตอนนี้เธออยู่ไหน ?....
ซังฮวก ออกไปตามหา ยูจิน
ยูจิน กำลังทุกข์ทรมานกับการตามหาจุนซาง ไปตามท้องถนน จนดึก
ในช่วงเวลาที่ยูจิน เที่ยวเดินมองหา จุนซาง นั้น จะมีเพลง From the beginning to now
( โช-อึม-โบ-โท-จี-กิม-กาจี) จากวันนั้นถึงวันนี้ ขับร้องโดย Ryu
มีคำแปลไทยของ โดย Connect คุณ Roytavan จะกรุณาแปลให้ใหม่ไหมคะ
From the Beginning to now : จากวันนั้นถึงวันนี้
เพียงเธอกล่าวว่าเธออาจจะไม่กลับมาหาฉันอีก
โปรดอย่ากล่าวเช่นนั้นเลย เห็นใจฉันเถิด
* ใจจริงฉันต้องการจะลืมทุกสิ่ง ถ้าฉันจะไม่มีโอกาส
ได้พบเธออีก ทว่าทุกสิ่งในตัวเธอยังตราตรึงอยู่ในใจฉัน
** เพราะทุกครั้งที่ฉันอยากหัวเราะเธอกลับทำให้ฉันร้องไห้
ฉันล้มเหลวในทุกสิ่งก็เพราะเธอเพราะเมื่อใดที่ฉันต้องการพบเธอ
หัวใจฉันต้องแหลกสลาย ไม่ว่าฉันจะพยายามเพียงใด
ก็มิอาจลืมเธอได้ลง
(ซ้ำ* ,**)
ฉันไม่เคยคิดเลยว่ารักนั้นจะทรมานนัก
(ซ้ำ **)
From beginning to now-Ryu
*A: You won't return to my side. It's impossible now.
I console myself that I should stop loving you now
*B: If I can't meet you again, I really hope to forget you, to forget the entire of you in my heart.
*C: Every time I want to smile, you let me cry.
You make me everything go wrong.
Every time I think of you, all my defences give way.
Tried hard to forget you, but I just couldn't.
*B/C:
*D: I never know it is so hard to love someone.
*C:
รักแรกและรักเดียวของยูจิน ช่างทรมาน ยูจิน เสียเหลือเกินแล้ว
ซังฮวก พบ ยูจิน และเข้าสูตร พระรองแสนดี เรียกร้องความเห็นใจจากคนชมทางบ้าน ของ วัฒนธรรมละครเกาหลี เปี๊ยบเลย ทำให้ ยูจิน ตัดสินใจบางอย่างเพราะรู้สึกผิดต่อ ซังฮวก เธอได้แต่พูด คำว่า ขอโทษ
(เป็นกลยุทธ์ ปูพื้นฐานในการเป็นพระเอก ในภายภาคหน้า ของบรรดาผู้กำกับเกาหลี หรือเปล่าคะ)
ซังฮวก พบ ยูจิน และเข้าสูตร พระรองแสนดี เรียกร้องความเห็นใจจากคนชมทางบ้าน ของ วัฒนธรรมละครเกาหลี เปี๊ยบเลย ทำให้ ยูจิน ตัดสินใจบางอย่างเพราะรู้สึกผิดต่อ ซังฮวก เธอได้แต่พูด คำว่า ขอโทษ
(เป็นกลยุทธ์ ปูพื้นฐานในการเป็นพระเอก ในภายภาคหน้า ของบรรดาผู้กำกับเกาหลี หรือเปล่าคะ)
คืนนั้นเมื่อกลับมา ยูจิน เอาภาพเสก๊ตช์ ของ จุนซาง ออกมาเผาทิ้ง จุนซาง ในกลางแสงไฟ ที่ค่อยๆไหม้ลามเลีย ยังคงยิ้มน้อยๆให้ ยูจิน เช่นเคย ยูจิน คิดว่า หากเอาภาพวาดของ จุนซาง ที่เก็บรักษาไว้นานมากมาเผาทิ้ง บางที จุนซาง จะออกไปจากความทรงจำของเธอได้
ฉันเข้าใจดีว่าเธอไม่อาจมาอยู่ต่อหน้าฉันอีกแล้ว ถึงแม้ฉันจะมั่นใจแค่ไหน แต่ฉันไม่อาจรับความจริงที่ว่าเธอจากไปแล้ว ฉันไม่มีวันลืมแววตาของเธอ เธอต้องอยู่คนเดียวในอีกโลกหนึ่งที่ไม่คุ้นเคย เธอคงจะอ้างว้างเดียวดายอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เป็นเพราะฉันไม่เคยลืมเธอ จึงทำให้คนรอบข้างต้องทุกข์ใจ ฉันจึงตัดสินใจที่จะลืมเธอไปเสีย นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ฉันจะไม่คิดถึงเธออีกเลย ลาก่อน.... จุนซาง
แชรีน ที่ไปฝรั่งเศสกำลังจะกลับมาเกาหลี เพื่อนๆ จึง ช่วยกันจัดพิธีหมั้นให้ ยูจิน และซังฮวก ใหม่ ที่โรงเรียนมัธยม ที่ชุนชง หลังสวมแหวนหมั้น ทุกคนไปที่ห้องกระจายเสียง แชรีน มาถึง มอบช่อดอกไม้ให้ ชิงซุก หยิบได้แผ่นเพลง The First Time จึงนำมาเปิดเพราะจำได้ว่า ยูจินชอบเปิดเพลงนี้บ่อยๆ แต่ ยูจินอยากให้เปิดเพลงอื่น
ทุกคน นั่งเงียบงัน ฟังเพลง The First Time
Jun-sang? appears:
Min-hyung : Chea-reen!
Chea-reen :Hi, Min-hyung. Why are you so late?
Chea-reen :Hi, Min-hyung. Why are you so late?
Min-hyung : I was caught in the traffic.
Chea-reen : Come in, it's cold, isn't it? Let me introduce him to you.
His name is Lee Min-hyung and we met in France.
Min-hyung. These are my high school friends I was telling you about.
Min-hyung : How do you do?
Chea-reen : There are my friends who are getting engaged today.
Min-hyung : I see. Congratulations. .....
ทุกคนได้แต่ตะลึง
วันต่อมา ยูจิน ต้องไป present งาน ที่ บริษัท มาเชียน เมื่อไปถึงบริษัท ยูจิน เข้าไปรอ กรรมการบริหารในห้อง มีภาพจี๊กซอว์ ต่อเรียบร้อยแล้ว แต่ขาดหายไปชิ้นหนึ่ง บังเอิญ ยูจิน สวมเสื้อโค้ทตัวที่เคยมาครั้งที่แล้ว จึงหยิบจิ๊กซอว์ ชิ้นที่เก็บได้จากกระเป๋าของเสื้อโค้ท และเอาไปวางในช่องว่างของภาพ
ขณะที่ยูจินกำลังมองภาพจิ๊กซอว์ ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว ก็ได้ยินเสียงประตูเปิด แล้วร่างของ จุนซาง ก็มาปรากฏเบื้องหน้าของยูจิน ราวกับมีคนร่ายเวทย์มนตร์ให้เธอ นี่แหละรักแรกที่เธอเฝ้ารำลึกอยู่ทุกคืนวัน จุนซาง เขามายืนอยู่เบื้องหน้ายูจิน อย่างเป็นตัวเป็นตนจริงๆ
หิมะแรกของฤดู อีก 10 ปี ต่อมา สายลมหนาวเริ่มพัดโบก นำพาความรักครั้งที่สองมาสู่ยูจิน
ตวามเห็นส่วนตัว
โธ่เอ๋ย ยูจิน ผู้เป็น นางเอกในดวงใจ ของ Amornbyj ช่างน่าสงสารเสียนี่กระไร แต่น่านับถือ และเป็นตัวอย่าง ของผู้หญิง ที่มีรักแท้หนึ่งเดียวในดวงใจ แน่วแน่มั่นคง เพียงชายเดียว เท่านั้น ยูจิน ต่างหาก ที่เป็น Polaris ให้ จุนซาง ยูจินไม่เคยแปรเปลี่ยน แม้คืนวันจะผันผ่านไป นานเพียงไร...........ก็ตามที และแม้แต่ต่อมาใครๆบอกว่า จุนซางเป็นพี่ชาย พ่อเดียวกันกับเธอ
Pupy love รักในวัยเยาว์ วัยที่สดในบริสุทธิ์ สวยงาม อ่อนหวาน ช่วยเหลือห่วงใยซึ่งกันและกัน ของนักเรียนชั้น ม.ปลาย อายุ 18 ปี ของจุนซาง และยูจิน จูบแรกที่แสนน่ารักน่าเอ็นดู
จาก pupy love หยั่งรากลึกเป็น รักแรก First love และ หลายอย่างที่เป็น The first time ของ จุนซาง และยูจิน ยิ่งทำให้ Fisrt Love นี้ ลึกล้ำ ลงไปในห้วงดวงใจของยูจิน ( แน่นอนที่สุด เพราะ จุนซาง ผู้โดดเดี่ยว มีปมในใจ แต่กับยูจินแล้ว จุนซางน่ารักมากจริงๆ อิจฉา ยูจิน เหลือเกิน จนคุณ Theater ไม่เป็น ซูจินี แล้ว ขอเป็น ยูจิน ดีกว่า อึม....)
ไม่เพียงแต่ First Love ของ จุนซาง และยูจิน เท่านั้น ยังเป็น first love ของ ซังฮวก ที่หยั่งรากมั่นคงไม่สั่นคลอน ต่อยูจิน แชรีน ที่มีต่อ จุนซาง และ คังมุยฮี แม่ของ จุนซาง ที่มีต่อ จุงซินเจา พ่อ ของยูจิน แม้ละครจะจบ ลง 20 ตอน รักแรก ที่แม้จะไม่สมหวังนี้ ยังคงตราตรึง อยู่ในดวงใจ ของ คังมุยฮี ซังฮวก และ แชรีน ไม่แปรผันเป็นอื่น
สำหรับ ยูจินในชีวิตของเธอ เมื่อมีรักแรกแล้ว ก็เป็นรักเดียวในชีวิต แม้คนรักจะตายจากไป แต่เขาก็ยัง สนิทแนบแน่นอยู่ในความทรงจำของเธอ ไม่เจือจางไม่ห่างหาย
อย่าเพิ่งเบื่อหน่าย นะคะ คนเล่า จะไม่เล่าครบ 20 ตอน เพราะ WLS เป็นละครที่อยู่ในหัวใจ ในความทรงจำของครอบครัว ยงจุน มากที่สุด หลับตาทุกคนก็เห็นภาพของละครโลดแล่นเคลื่อนไหวได้ทั้ง 20 ตอน เสียงเจรจาของจุนซาง ยูจิน และ ลีมินฮุง ก้องในโสตประสาท ของเกือบทุกท่านอยู่แล้ว แต่กับสมาชิกใหม่ที่เพิ่งชอบยงจุน เพราะ the legend และยังไม่ได้ชมเรื่องนี้ ก็ยังมี คนเล่า ก็เลยขอเล่า เฉพาะ ตอนหรือบท ที่ตัวเองชอบ ตามประสา คนที่ชอบทำอะไรๆ ตามใจตัวเอง เช่นเคย ขอใช้ อภิสิทธิ์ ความเป็น ส.ว .ระบบ ปาร์ตี้ ลิสต์ ค่ะ
ข้อความที่นอกเหนือจากแผ่น ละคร ก็คือ การแปลตามหนังสือของ คุณ รำพรรณ รักศรีอักษร
ภาพเสก๊ตซ์ จุนซาง ของ นากะจุน ภาพนี้ไม่ใช่ภาพที่ยูจิน เอามาเผา
Winter Love Song: Episode 3
Next day, on the way to school, Yu Jin was thinking of what she should say to Joon Sang about him missing their date. When she heard that Joon Sang was killed in a traffic accident, she could not accept it. By the lake, the classmates burnt paper offerings for Joon Sang, and Choi Lim accused Yu Jin for causing Joon Sang's death...
Back home, Yu Jin received a belated Christmas present from Joon Sang. It was a cassette tape containing "the first time", played and recorded by Joon Sang himself… She broke down and cried...
Ten years later, Yu Jin opened a renovation company called Polaris, while Sang Hyuk worked at the radio station. Zhen Suk was jobless and stayed with Yu Jin. Lung Kok became a veterian.
Polaris was involved in a ski field project with a company called Marcian. Yu Jin visited Marcian when they were moving into the new office premises. She picked up a piece of puzzle on her way out.
Later that evening, on the way to her engagement ceremony, Yu Jin saw a man who looks just like Joon Sang. Unconsciously, she followed him around, and forgot to attend her engagement ceremony. Everyone was waiting and Sang Hyuk's mum was very upset. Eventually, the exhausted Yu Jin turned up at the engagement venue but fainted in front of her family and friends...
The next day, Yu Jin went to Sang Hyuk's house to apologize but his mum was still upset. However, Sang Hyuk was very understanding, and did not even asked what happened. Yu Jin went home and listened to the tape left by Joon Sang 10 years ago. She started scribbling something on a piece of paper...
With the engagement ring, Sang Hyuk went to Yu Jin's home. Yu Jin was not around but Sang Hyuk saw her scribbled notes, saying that she has not forgotten Joon Sang and whether she was in a dream seeing him alive and walking on the road... Later, Sang Hyuk found Yu Jin in a park. He told her that she should have told him and he will wait with her...
Choi Lim sent an email to the old classmates, telling them she is back from France...
Lung Kok and Zhen Suk decided to help Sang Hyuk and Joon Yin to complete their engagement ceremony. Sang Hyuk drove Joon Yin back to the high school. At the courtyard, he put on the ring for her.... At the celebration party in the broadcast room, Choi Lim showed up and told everyone that she has opened a boutique. While they were talking, a man who looked exactly like Joon Sang showed up. Everyone was shocked when Choi Lim introduced him as Lee Man Yeong, her boyfriend.
Next day, Yu Jin went to Marcian. In the manager's office, she found a puzzle with a "hole", i.e., a missing piece. She removed the piece if puzzle she picked the other day from her pocket … fitted it in the "hole" … then, Lee Man Yeong appeared at the door, with the most brilliant smile...
http://www.hotelier2002.com/
Winter Love Song: Episode 2
Winter Love Song: Episode 2
The next day, Yu Jin and Joon Sang were disciplined by the teacher for playing truant. The teacher asked whether it was Joon Sang who took Yu Jin out. Yu Jin defended that she has gone out by her freewill. Both of them were ordered to clear the fallen leaves in the yard for one month as punishment.
Joon Sang went to see Zhen Yu in his office. The latter talked about his son Sang Hyuk, and Joon Sang is disappointed that he did not remember he has another son...
In the broadcast room, Joon Sang brought a LP with the track "the first time". Yu Jin told him that it was the first time she skipped class, the first time on a bicycle... Then, Joon Sang asked if she agreed to join him for a movie on Saturday. He told her that it was his first time asking a girl for a date too.
On tailing Joon Sang, Sang Hyuk found that Joon Sang was seeing Zhen Yu. The next day, Sang Hyuk confronted Joon Sang. Joon Sang told him that Sang Hyuk had too much that he wanted... Sang Hyuk asked Joon Sang whether this is the reason why he approached Yu Jin. Yu Jin came in while they were arguing. Yu Jin misunderstood Joon Sang’s words, and stormed off....
Sang Hyuk, Yu Jin, Joon Sang, Choi Lim and some other classmates went to a mountain chalet for Christmas camping. In the dark, Yu Jin got lost in the woods. Eventually, she was found by Joon Sang. Joon Sang revealed that he has been true to her. Joon Sang told Yu Jin, "That next time you are lost, you should look for Polaris as the location of this Stellan will never change", and they made up.
The next day, Sang Hyuk reminded Yu Jin that she should not be used by Joon Sang. Yu Jin told Sang Hyuk that she liked Joon Sang.
While cleaning the yard, Yu Jin told Joon Sang what she did last winter. Joon Sang told her that when the first snow fall this year, he would have a date with someone at the lake... On the first snowing day of the year, Joon Sang met Yu Jin at the lake and had a great time. They had their first kiss there.
After the excursion by the lake, Yu Jin took Joon Sang home. At the door, Yu Jin gave Joon Sang her gloves and asked him to return them to her on New Years' Eve. Later, she invited him to dine in her house. When she was cooking, Joon Sang saw a picture and was led to believe that Xin Zhou might be his father. Joon Sang left Yu Jin's house in a hurry without saying goodbye. He went to ask Zhen Yu, who told him that Mei Xi was in love with Xin Zhou... Heartbroken, Joon Sang decided to go to US with his mum. Half-way in the car, he suddenly remembered about the date with Yu Jin. Joon Sang tried to make his way there but was hit by a track... Yu Jin waited in vain, in the snow, for a long time …
http://www.hotelier2002.com/
The next day, Yu Jin and Joon Sang were disciplined by the teacher for playing truant. The teacher asked whether it was Joon Sang who took Yu Jin out. Yu Jin defended that she has gone out by her freewill. Both of them were ordered to clear the fallen leaves in the yard for one month as punishment.
Joon Sang went to see Zhen Yu in his office. The latter talked about his son Sang Hyuk, and Joon Sang is disappointed that he did not remember he has another son...
In the broadcast room, Joon Sang brought a LP with the track "the first time". Yu Jin told him that it was the first time she skipped class, the first time on a bicycle... Then, Joon Sang asked if she agreed to join him for a movie on Saturday. He told her that it was his first time asking a girl for a date too.
On tailing Joon Sang, Sang Hyuk found that Joon Sang was seeing Zhen Yu. The next day, Sang Hyuk confronted Joon Sang. Joon Sang told him that Sang Hyuk had too much that he wanted... Sang Hyuk asked Joon Sang whether this is the reason why he approached Yu Jin. Yu Jin came in while they were arguing. Yu Jin misunderstood Joon Sang’s words, and stormed off....
Sang Hyuk, Yu Jin, Joon Sang, Choi Lim and some other classmates went to a mountain chalet for Christmas camping. In the dark, Yu Jin got lost in the woods. Eventually, she was found by Joon Sang. Joon Sang revealed that he has been true to her. Joon Sang told Yu Jin, "That next time you are lost, you should look for Polaris as the location of this Stellan will never change", and they made up.
The next day, Sang Hyuk reminded Yu Jin that she should not be used by Joon Sang. Yu Jin told Sang Hyuk that she liked Joon Sang.
While cleaning the yard, Yu Jin told Joon Sang what she did last winter. Joon Sang told her that when the first snow fall this year, he would have a date with someone at the lake... On the first snowing day of the year, Joon Sang met Yu Jin at the lake and had a great time. They had their first kiss there.
After the excursion by the lake, Yu Jin took Joon Sang home. At the door, Yu Jin gave Joon Sang her gloves and asked him to return them to her on New Years' Eve. Later, she invited him to dine in her house. When she was cooking, Joon Sang saw a picture and was led to believe that Xin Zhou might be his father. Joon Sang left Yu Jin's house in a hurry without saying goodbye. He went to ask Zhen Yu, who told him that Mei Xi was in love with Xin Zhou... Heartbroken, Joon Sang decided to go to US with his mum. Half-way in the car, he suddenly remembered about the date with Yu Jin. Joon Sang tried to make his way there but was hit by a track... Yu Jin waited in vain, in the snow, for a long time …
http://www.hotelier2002.com/
Actually love
Actually Love…..
ไม่ทราบว่ามีใครจำได้บ้างไหมคะ ว่า Actually love…. คือ วลี ของใคร ที่ไหน เมื่อไร ไม่ใช่รายการตอบคำถามชิงรางวัล ของคุณ Theater หรือของ คุณ Roytavan นะคะ ไม่ต้องส่งคำตอบค่ะ และก้อ ไม่มีของรางวัลค่ะ
นี่คือ Head wording ของงาน มิตติ้ง เมื่อ 22/11/08 ของคุณ ladymoon ค่ะ ใช้คำแปลภาษาไทย ว่า เหตุเกิดเพราะรักล้วนๆ
เสียดาย ที่คนเขียนไม่ได้อยู่ร่วมงาน จนเสร็จงาน ก็ขอเขียนเท่าที่ตนเองสัมผัสมาแล้วกันนะคะ และก้อ อาจหาญมากเลยที่ขึ้นเป็นกระทู้เสียด้วย เนื่องจาก นิสัยเสียส่วนตัวอันเนื่องมาจากวัย คือทำอะไร อะไร ที่ตัวเองอยากทำ ขออภัย เพื่อนๆด้วยค่ะ (อันที่จริงนิสัยเสีย ไม่เกี่ยวกับวัยสักหน่อย เป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้นเอง)
ในวันที่ 22/11/08 เป็นวัน รวมพล คนรัก BYJ ไม่มีเพศ ไม่มีวัย ไม่มี ค่าย ค่ะ แต่ที่แน่ๆ คือ มีแต่ BYJ family in Thailand เท่านั้น
เห็นภาพแล้ว มี Byj family วัยสูงสุด 65 ขวบปี วัยต่ำสุด 2 ขวบปี กว่า ๆ ค่ะ
มี Byj family ทั้ง เพศหญิง และเพศชาย
มี BYJ family ที่มาจาก BYJtogether มาจากพันทิป (บ้านผู้ชายในตำนาน) มาจาก Twssg.bloggspot (BTF) มาจาก Bloggang มาจาก popcorn ไม่แน่ใจ ว่าคนเขียนเขียนครบทุกบ้านหรือไม่ ถ้าตกหล่นขอภัยค่ะ
อายุ ก็เป็นเพียงตัวเลข
เพศ ก็แค่ บอกสรีระ รูปร่าง
บ้าน หรือค่าย ก็ แค่บอก ภูมิลำเนา ถิ่นที่อยู่
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ คือ ชีวิต จิตใจ หรือหัวใจ ต่างหาก หัวใจใครไม่เต้นก็มาไม่ได้และต้องทำพิธีให้ แล้วแต่ ศาสนา ลัทธิ หรือความเชื่อกันล่ะค่ะ
41 ชีวิต ที่มาร่วมงาน อ้อ ลืม ไป รวมน้องน้อย น้องนุชคนสุดท้อง ( แต่คนเดียว ของคุณ ธิดา) ก็ 42 ท่าน ค่ะ ทุกคนมาด้วยหัวใจดวงเดียวกัน คือ ดวงใจ ที่บรรจุแต่ความรัก ความชื่นชม ความนิยม ความศรัทธา ที่มีต่อ Bae Yong Joon และ มีบางท่าน ที่สามารถใช้คำว่า รักเอ็นดู Bae Yong Joon ได้ค่ะ และ แต่ละท่าน ก็ มี BYJ เข้าไปครอบครองเต็ม 4 ห้องหัวใจ กันทั้งนั้น
คนเขียนถาม พิธีกร หนุ่มหล่อ เสื้อขาว กางเกงยืน ส่วนใหญ่ถือไมค์ติดมือตลอด ซึ่งตั้งใจมาช่วยงาน คุณ Ladymoon ว่า รู้สึกอย่างไรที่มาพบบรรยากาศในงานนี้ เพราะ คุณ เอก ยังไม่ใช่ครอบครัว ของ BYJ มาเพราะคุณ Ladymoon (คนเขียนก็เลยไม่นับเป็นคนที่ 43) เพียงแค่ ครึ่งชั่วโมง เมื่อ พวกเราทยอยเข้ามา คุณเอก ตอบว่าแปลกมากเลยครับ ผมได้พบความมหัศจรรย์ กับความรักของคนที่มาร่วมงานในวันนี้ ที่มีให้กับ คุณ Bae Yong Joon เป็นความรักที่มหัศจรรย์ ( คุณ เอก คะ พี่ อมร ความจำค่อนข้างดี กับเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ สุดที่รัก Bae Yong Joon ค่ะ ถ้าคุณเอกเข้ามาอ่านแล้ว รู้สึกจำไม่ได้ พี่อมร ขอยืนยันอย่างหนักแน่น นะคะ ก็คุณเอกยุ่งมากด้วย )
บางท่านเข้ามาในงาน โดยที่เพื่อนที่รู้จักยังมาไม่ถึง แต่ชั่วครู่เดียวก็ได้เพื่อนคุย คุยในเรื่องเดียวกัน สนุกสนาน หน้าตาทุกท่าน อิ่มเอิบ มีความสุข มีแต่เสียงพูดคุย หัวเราะ เบิกบานใจ ทุกโต๊ะที่เดินผ่านพูดถึงเรื่องของ ชายคนเดียวกัน ด้วยความรัก ความชื่นชม เป็นเรื่องของความรักหนึ่งเดียว ที่มีต่อ ผู้ชาย ที่ชื่อ เบ ยองจุน ความรักที่แบ่งปันซึ่งกันและกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ห่วงใยซึ่งกันและกัน เป็นความรักความปรารถนาดีที่พร้อมจะให้กับคนในครอบครัวเดียวกัน ซึ่งกันและกัน เพียงแค่รู้ว่า รัก เบ ยองจุน เท่านั้น
ครอบครัวที่มาในวันนี้ มีสุภาพบุรุษ 2 ท่าน คุณ ตั้มมากับคุณสุ ตอนที่รู้จัก อมรถามว่า คุณ ตั้ม มางานเป็นเพื่อนคุณสุหรือคะ คุณตั้มตอบสวนออกมาทันควันว่า เปล่าครับ ผมมาเพราะผมชอบ เบ ยองจุน ครับ ผมไม่เคยไปงานแบบนี้ที่ไหนมาก่อนครับ ผมชอบ เบยองจุน จากเรื่อง the legend ชอบมากด้วยครับ (ตอนพบกันตอนแรก คุณตั้ม รวบผมหางม้า เหมือน ขวัญใจของพวกเราเลย) อมร ดีใจจริงๆ ขอจับมือ คนที่ชื่นชอบ ยงจุน ของเรา มางานนี้เพราะ ยงจุน จริงๆ คุณตั้มเป็นคนพูดน้อยต้องคุยแบบตั้งคำถามค่ะ
คนที่สอง น้องเดล ที่เป็นลูกน่ารักพาคุณแม่มางานมิตติ้งยงจุนหลายครั้งแล้ว คุณแม่นงลักษณ์หนีนัดคุณหมอ ที่นัดไว้ล่วงหน้า คุณลูกชายน้องเดลติดงานจะมาไม่ได้ คุณแม่คิดว่าจะแอบมางานคนเดียว เรื่องคุณหมอ ไว้ทีหลังแล้วกัน ส่วนคุณลูกชายไหนจะห่วงคุณแม่ ไหนจะชื่นชอบ ยงจุน งานก็งานเถอะเดี๋ยวกลับไปทำต่อแล้วกัน แล้วคุณแม่คุณลูกชายก็เกี่ยวก้อยกันมา น่ารักทุกครั้งที่ได้เจอกัน
คงไม่เล่าถึงทุกท่านนะคะ จะยืดยาวเกินไป สรุปรวมว่า บางท่านมาร่วมงานแบบต้องรีบกลับไปทำงาน บางท่านมาทั้งที่มีปัญหาสุขภาพ บางท่านตัดสินใจเพียงแค่หนึ่งวันก่อนวันงาน แน่นอนว่า ทุกท่าน มาเพราะอานุภาพแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ ที่มีต่อ Bae Yong Joon
เสียดายที่ไม่ได้ฟัง ความรู้สึกของแต่ละท่าน ที่มีต่อ ยงจุน และยังรู้จัก ครอบครัวในวันนี้ยังไม่ครบ (หมายความว่ารู้จักอย่างเก็บไว้ใน memory box ของตัวเอง เพราะความสามารถในการบันทึกความจำ ด้อยประสิทธิภาพลงไปเยอะ เนื่องจากตัวเองไปร่วมงาน แบบมีเรื่องงานกังวลค้างในใจด้วย ขอแก้ตัวคราวหน้านะคะ ที่ผ่านมาหาก มีครอบครัวมางาน 40 กว่าคน น่าจะจดจำเรื่องราวของแต่ละท่านได้เกือบหมดตกหล่นอะไร ก็โทร สอบถามข้อมูลเพื่มเติม ประมาณนั้นน่ะค่ะ ไม่ใช่จำเก่งอะไรหรอก
ใน winter sonata มีความรักหลายรูปแบบ เช่น pupy love , first love, possessive love, lost love, parental love, true love
Actually love ไม่ได้เป็นความรัก เป็นบทบาทตามบทละคร แต่ เป็น เรื่องของความจริง จากห้วงดวงใจที่ไม่อิงนิยาย และทุกดวงใจ มีศูนย์รวมความรักเดียวกัน คือ Bae Yong Joon
ดีใจจริงๆค่ะ ที่ได้รู้จัก พี่ ๆ เพื่อนๆ น้องๆ หลานๆ ในงานวันนี้
ขอขอบคุณ คุณ Ladymoom นะคะ ที่ทำให้มีวันนี้ วันที่พวกเรามีความสุข มาก ๆ ค่ะ ขอขอบคุณผู้ที่มาร่วมงานทุกท่าน ขอบคุณ ที่ตัวเอง มีโอกาส ไปร่วมงานแห่ง ความรัก ความสุข มิตรภาพ 22/11/08 ค่ะ
ขอขอบคุณ คุณ Theater คุณกาญจนา พี่ใหญ่แห่งพันทิป และชาวพันทิปทุกท่าน ชาว bloggang ชาว popcorn ชาว BYJtogether ชาว twssg.bloggspot ( BTF) ถ้าใครอยู่หลายบ้านก็รับคำขอบคุณได้หลายเที่ยวค่ะ ขอบคุณคุณเอกนะคะ
First time , Polaris & First kiss
ในตอนที่ 1
จุนซาง เล่น เปียโน เพลง The First Time ให้ยูจินฟัง ในห้องซ้อมเปียโน ของโรงเรียน
ยูจิน : เธอบอกว่าเล่นเปียโนไม่เป็นไม่ใช่หรือ
จุนซาง : ฉันไม่ได้บอกสักหน่อยว่าฉันเล่นไม่เป็น
จุนซางชวนยูจิน หนีเรียน ไปที่ทะเลสาบ หลังจากไปยืนที่หน้าต่างแล้วมองเห็นซังฮวก
Episode 2 - First time , polaris & first kiss
ทั้งคู่ถูกทำโทษให้ไปเผาขยะของโรงเรียน 1 เดือน (คุณครูเกาหลีท่านนี้ประหลาดมากขณะคิดว่า นักเรียน 2 คนนี้ คบหากัน จนหนีเรียน กลับส่งเสริม ให้ ทั้งคู่ มีเวลาอยู่กันตามลำพัง นอกห้องเรียน) แม้ยูจินจะมาโรงเรียนสายเป็นประจำ แต่ไม่เคยหนีเรียน
และวันหนึ่ง จุนซางก็เอาแผ่นเสียง เพลง The First Time มาให้ยูจินที่ห้องกระจายเสียงของโรงเรียน และยูจิน เปิดในขณะจัดรายการ
ยูจินบอกว่า“ฟังแล้วคิดถึงครั้งแรก นั่นเป็นครั้งแรกที่ เธอหนีเรียน เป็นครั้งแรกที่จับมือกับผู้ชาย เป็นครั้งแรก ที่ซ้อนจักรยานคนอื่น “
จุนซาง ชวน ยูจิน ไปดูหนังวันเสาร์ แล้วบอกว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาชวนผู้หญิงไปดูหนังเช่นกัน
แต่ทั้งคู่ไม่ได้ไปดูหนังเพราะ ยูจินเข้าใจว่า จุนซาง มา ใกล้ชิด กับเธอ เพื่อ แกล้ง ซังฮวก ตามที่เธอได้ยิน จุนซางและซังฮวก พูดกัน แต่ทั้งจุนซางและยูจินกลับเปลี่ยนใจ ไปตั้งแคมป์ บนภูเขา กับเพื่อน ๆ ยูจินเสียใจซ้ำสอง และเตลิดออกเขตที่พักหลงทาง จุนซาง หา ยูจิน พบ ก่อนเพื่อนคนอื่นๆ และสอนยูจินถึงเรื่อง ดาว Polaris ที่ไม่เคยแปรเปลี่ยนที่ ไม่ว่ากาลเวลาไหน
Jun-Sang
Can you see the stars in the shape of Cassiopeia? Can you Polaris beside that? The star of the polar. Can you see the big star in between the Big Dipper and Cassiopeia? Whenever you get lost in the mountain, look for the Polaris first. And then you open your arms and be a compass .... Polaris doesn't move the whole year round. You will be able to find it easily whenever you are. When you are lost, try to find Polaris first. It will be there where you last saw it.
เมื่อไปโรงเรียน และกำลังช่วยกันเผาขยะ ยูจิน คุยเรื่อง ปีที่แล้วที่หิมะตกครั้งแรก เธอทำขนมกับซังฮวก
จุนซางกอบใบไม้แห้งมาโปรยเป็นหิมะ ให้ ยูจิน
ยูจิน ถามว่า ถ้าหิมะตกจุนซางจะทำอะไร
จุนซางตอบว่า : ฉันจะไปพบใครคนหนึ่งที่ริมทะเลสาบ แล้วเธอล่ะ
ยูจิน ตอบว่า ฉันก็เหมือนกัน
แล้วท้องฟ้าก็โปรยปรายหิมะแรกของฤดูลงมา จุนซาง เพิ่งออกมาจาก ที่ทำการไปรษณีย์
ฮีจิน มาบอกพี่สาวยูจิน ว่า พี่ยูจิน หิมะตกแล้ว
ยูจิน รีบไปทะเลสาบสถานที่ที่เคยไปกับจุนซาง กำลังเดินเลียบแนวไม้ริมทะเลสาบ ก็ถูกใครคนหนึ่งเอาหิมะกว้างใส่แก้มเธอ จะเป็นใคร ถ้าไม่ใช่จุนซางที่ยืนยิ้มให้อยู่
เธอมาทำอะไรที่นี่ ยูจิน ถามจุนซาง
ฉันมีนัดที่นี่
ยูจิน : อ้องั้นหรือ
แล้วเธอล่ะ จุนซางถามกลับ
ยูจิน : ฉันก็มีนัดเหมือนกัน
อ้อ..งั้น หรือ แล้วจุนซางก็เหลียวมองอีกข้าง แล้วพูดว่า : ยังไม่เห็นมีใครมา
ยูจินตอบว่า อีกเดี๋ยวเขาก็คงมา
จุนซาง หัวเราะ ก้าวเดินไปข้างหน้า ยูจิน เดินตามหลัง ไล่เหยียบเงาของ จุนซาง
ทำอะไรของเธอ จุนชางถาม
เหยียบเงาเธอไงล่ะ นี่รู้หรือเปล่า ว่าทำอย่างไรที่จะไม่เหงาในดินแดนแห่งเงา
จุนซางตอบว่า ไม่รู้สิ
ยูจิน : ก็ต้องมีคนจำเงาของเธอได้ไง นี่ไงล่ะ
ทั้งคู่หัวเราะ
จุนซาง : เป็นพระคุณอย่างสูง
ยูจิน : แค่นั้นละหรือ
จุนซาง เอ้อ...เอาละ ฉันรู้แล้ว ถ้างั้นฉันจะอยู่ เป็นเพื่อนเธอจนกว่า คู่เดทของเธอจะมา ดีไหม
ยูจิน ล้อเลียนกลับว่า : เป็นพระคุณอย่างสูง
ต่างมองดูหิมะสีขาวราวปุยฝ้าย แล้วก็หัวเราะอย่างร่าเริง เอาหิมะกลิ้งไปกลิ้งมา ทำเป็นตัวตุ๊กตาหิมะ ปั้นก้อนเล็กๆไว้ข้างบน หากิ่งไม้มาเสียบ ได้ตุ๊กตาหิมะตัวหนึ่ง
ทั้งคู่นั่งเก้าอี้ยาว บนโต๊ะวาง ตุ๊กตาหิมะ ตัวเล็กลงกว่าตัวแรก สองตัว ยูจิน เอากิ่งไม้มาทำเป็นตาและจมูก กำลังวางกิ่งไม้เป็นรูปปากที่กว้าง
จุนซาง ถามว่า : ปากเขาเป็นอะไร
ยูจิน : เขามีอะไรอยากจะบอกเธอน่ะ
จุนซาง สงสัย : บอกอะไร
ยูจิน : ไว้ก่อนเถอะ แล้วฉันจะบอกทีหลัง
จุนซาง หันตุ๊กตาหิมะของตนเอง กับของยูจิน ให้หันหน้าเข้าหากัน สองมือค่อยๆเลื่อนจนตุ๊กตาหิมะสองตัวนั้น เหมือนจูบกัน
ยูจิน หัวเราะแจ่มใส : พวกเขาจูบกัน
จุนซาง เอามือ แตะเบา ๆ ที่หัวตุ๊กตาตัวของเขา 2-3 ครั้ง บ่นว่า
“อิจฉานายจังเลย “
ยูจิน มอง จุนซาง ที่ดูตุ๊กตาหิมะอยู่ ด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข แล้ว ยูจิน ก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มจุนซางที่หนึ่ง แล้วก็ถอยหน้าตัวเองออกห่างอย่างรวดเร็ว
พลางบอกว่า“ ทีนี้จะได้หายอิจฉาไง “
จุนซาง สะดุ้งแล้วยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ยูจิน อายไม่กล้ามอง จุนซาง ได้แต่ก้มมองตุ๊กตาหิมะของตัวเอง
จุนซาง กระแอมเสียงในลำคอ แล้วเรียก “ ยุจิน”
ยูจิน ส่งเสียงตอบรับ หึม.. พลางหันหน้ามาหาจุนซาง จุนซางยื่น ริมฝีปากตัวเอง แตะริมฝีปาก ยูจิน เบาๆ ยูจิน เบิกตากว้างทำอะไรไม่ถูก
ทั้งคู่หัวใจพองโต นี่เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่มีความสุขเช่นนี้ จูบแรก ของทั้งสองคนในวันหิมะแรกของฤดู เป็นการต้อนรับความสุขในวันนี้
หิมะแรกของฤดู โปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย ราวจะอวยพร ให้ จุนซาง และ ยูจิน มีความสุข เกล็ดหิมะปลิวกระจายล่องลอยลงมาจากท้องฟ้าที่สดใส จนรอบบริเวณนั้นขาวโพลนล้อมรอบคนทั้งสอง แม้รอบตัวจะเยือกเย็นเพราะละอองหิมะ แต่ในหัวใจ ของ จุนซาง และ ยูจิน กลับอวลด้วยไออุ่น ด้วยกระแสธารแห่งรักแรก และจูบแรก เมื่อครู่นี้
ทั้งสองเล่นหิมะกันอย่างเพลินเพลิน ร่าเริงแจ่มใส เป็นสุข เป็นความรัก ที่บริสุทธิ์ดุจหยาดน้ำค้าง ที่ถูกกลั่น เป็นละอองหิมะ อยู่ในขณะนั้น
ยูจิน เขย่ากิ่งไม้ ที่มีหิมะค้างอยู่ ร่วงหล่นพราวลงมา จุนซาง หลบตัวเองจากหิมะที่ร่วงลงมา ยูจิน เอาหิมะมาปั้นแล้วขว้างใส่ จุนซาง ขว้างกันไปมา ล้มลุกคลุกคลาน น่าเอ็นดูทั้งคู่อยู่บนพื้นหิมะ ยูจิน เดินตามรอยเท้าก้าวย่างของ จุนซาง ที่แกล้งก้าวเท้ายาวๆ ให้ ยูจิน ต้องกระโดดก้าวตาม สนุกสนาน จนเย็น
Favorite things
Yoo-jin
Let's answer together to the questions I am going to ask you. Let's see if we are feeling the same about things.
What's your favorite color? - (White)
What's your favorite season? - (Winter)
What's your favorite food? - (I like everything )
Jun-sang
Hey, I thought we were going to answer together. Why aren't you saying anything?
Yoo-jin
I wanted to remember your favorite things. Now ask your question?
Jun-sang
What's your favorite flower? - (White roses)
What about your favorite animal?
Yoo-jin
Puppies. What about you?
Jun-sang
Human.
Yoo-jin
Human? Who in particular?
Jun-sang
Let's meet here at 31st December. Then I will tell you. Okay? I will tell you then.
ทั้งสองคนต่างยิ้มให้กันและกัน รอยยิ้มที่สดใสกว่าแสงตะวัน สว่างไสว กว่า สีขาวของหิมะ
ที่หน้าบ้านของยูจิน ยูจินถอดถุงมือสีชมพู อีกข้างของเธอออก ที่แต่แรกนั้น เธอถอดให้จุนซางใส่ข้างหนึ่ง เธอใส่ข้างหนึ่ง และช่วงที่จูงมือกันเดินในเมือง ทั้งสองเกาะเกี่ยวมือกันเดินด้วยมือข้างที่ไม่สวมถุงมือ เพื่อส่งถ่ายความรู้สึกลึกล้ำไปสู่กัน
ยูจินเป็นห่วงว่า จุนซางจะหนาว และบอกให้จุนซางคืนถุงมือสีชมพูคู่นี้ ในวันที่ 31ธันวาคม เช่นกัน
แต่แล้ว ในวันที่31 ธันวาคม ยูจิน ต้องไปยืนคอยจุนซาง เก้อ ณ ที่นัดพบ ยูจินน้ำตาคลอ แหงนมองพลุบนฟากฟ้า ที่จุดฉลองวันปีใหม่
ความพลิกผันของชะตากรรมของคนทั้งคู่ เกิดจาก ยูจิน ชวน จุนซาง ให้อยู่รับประทานเย็นต่อวันที่ทั้งคู่มีความสุขที่สุด ที่ริมทะเลสาบ จุนซาง ได้พบรูปภาพ ที่จุนซาง เองก็มีติดตัว เพียงแต่ภาพของจุนซาง มีส่วนขาดหายไป แต่ภาพที่บ้านของยูจิน เป็นสามมิตรสหาย มีแม่ของจุนซางยืนอยู่กลาง และภาพที่หายไปคือภาพพ่อของยูจิน ดูเหมือนว่า ในสมัยก่อน คังมุยฮี แม่ของ จุนซาง จะรักกับ จุงซินเจา พ่อของ ยูจิน และ คิมซิงยู พ่อของซังฮวก เป็นเพื่อนรักของทั้งสองคน จุนซาง เริ่มสับสนกับความที่เคยเชื่อว่า คิมซิงยู น่าจะเป็นพ่อของตัวเอง
หลังจากตกใจมาจากบ้าน ยูจิน แล้ว จุนซาง ไปหาพ่อของ ซังฮวก เพื่อสอบถาม กลับทำให้ไขว้เขวหนักขึ้น จุนซาง โทรศัพท์หา คังมุยฮี ตัดสินใจ เดินทางไปอเมริกา ทันที
ในวันเดินทาง เพราะถุงมือสีชมพูที่ค้างในกระเป๋าเสื้อโค๊ท ทำให้ จุนซาง ลงจากรถที่กำลังจะไปสนามบิน เพื่อจะกลับไปพบยูจิน ในวันนัด 31 ธันวาคม ก่อนการเดินทาง แต่ จุนซาง ไปไม่ถึงที่นัดหมายเสียแล้ว
Dancing Queen & WLS
"Winter's Sonata"
ขออนุญาต แสดงความรู้สึกส่วนตัว เกี่ยวกับ อมตะนิรันดร์กาล ของละคร เพลงรักในสายลมหนาว
รู้สึก ชื่นชมกับละครและนวนิยายเรื่องนี้มาก เมื่อปี 2548 แต่แล้วในปี 2550 คุณร้อยตะวันก็มาจุดประกาย เล่าจุดเล็กจุดน้อยใน ละครเรื่องนี้ เสียจน ได้รับความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนละมุนละไม ของ เพลงรักในสายลมหนาว
เพลงรักในสายลมหนาว ปี 2550 ที่เกิดจากการประสาน บทบาท การดำเนินเรื่องของตัวละครในละคร ที่เราได้ชมกันแล้ว และนวนิยาย ที่คุณ รำพรรณ แปล ความมาจากผู้เขียน คิมอุนฮี และ ยุน อุน ควง ซึ่ง ได้อ่านมาแล้วเมื่อปี 2548 หากมาย้อนนึกใหม่ ตามบทบาทที่ ยงจุน ของเราแสดง ตามสคริปต์ ผสมด้วยคาแรคเตอร์ ส่วนตัวเองของยงจุนและตัวแสดงอื่น ๆ ทุกตัวละคร ต้องขอยอมรับนับถือ เพลงรักในสายลมหนาวจริง ๆ รวมทั้งคุณรำพรรณ รักศรีอักษร ผู้แปลความ คุณ ร้อยตะวัน ผู้แปลถ้อยร้อยความละคร และหนังสือ รวมกันเป็นหนึ่งเดียวใหม่
รู้สึกว่า พวกเรา ทั้งหลายที่ชื่นชอบ เพลงรักในสายลมหนาว เหมือน หมู่แมลงเหล่าภมร ที่ได้มาบินร่อนชมและดอมดม ดอก มูกุงฮวา หรือ โรสออฟชารอน ดอกไม้ประจำชาติของเกาหลี แล้ว ก็ถูกใจ ใน สีสัน ของดอก มูกุงฮวา ได้รู้ ที่มา ที่ไป ความหมายและสีสัน ก็หลงติดใจ ดื่มด่ำ กับ ความงดงาม ของดอกไม้นี้ แล้วก็มี ผีเสื้อ ที่มี ปีกอันอ่อนช้อย พลิ้วพราย ยามพัดกระพือ เคลื่อนไหว บินร่อน มาสู่ดอกไม้นี้เช่นกัน แต่ อย่างพินิจพิเคราะห์ มองกลีบดอกไม้ ทุกกลีบ เห็นแม้ เส้นสายลายเนื้อกลีบดอกสีชมพู บ้าง สีส้ม โอโรส บ้าง สีอ่อนบ้าง เข้มบ้าง จ้องมองไปถึงเกสรแห่ง ดอก มูกุงฮวา นี้ แทบทุกละอองของเกสรสีเหลืองอร่ามงามตา รวมทั้งได้เข้าไปซุกไซร้ พบ ความหอมหวานอบอวลของมวลเหล่าเกสร เหล่านั้น แล้วพบว่า เพลงรักในสายลมหนาว ได้ประมวลความงดงามของดอก มูกุงฮวา ทุกดอกที่บานสะพรั่งเหนือปฐพี เกาหลี ความหอมหวาน ดั่งหยาดหยดมาจากรวงผึ้ง ทุก รังรวง ที่มีอยู่บนพื้นพิภพ มิรู้ที่จะเอ่ยคำที่จะทำให้ซึมซับในความหมายกับหลายๆสิ่งที่ซ่อนอยู่กับบรรดาตัวอักษรคำบรรยาย หรือการสื่อด้วยบทบาทการแสดงที่โลดแล่น บนจอแก้ว ที่มิเคยได้รับรู้มาก่อนเลย
หากผู้ที่ชื่นชอบ เพลงรักในสายลมหนาว ตั้งอกตั้งใจ ดู สัก ยี่สิบรอบ อย่างคุณร้อยตะวัน จะพบว่า สิ่งละอันพันละน้อย ที่ผู้กำกับยุนซุกโฮ ทีมงาน คนเขียนบท ผู้แสดงบทบาท สอดใส่แทรกอยู่ใน ละครนั้น ล้วนมีความหมายที่ยิ่งใหญ่ เป็นความตั้งใจ ซึ่งคุณร้อยตะวันคิดว่า อาจจะเริ่มตั้งต้น มาตั้งแต่ เจ้าของบทประพันธ์ นวนิยาย ที่มีแรงบันดาลใจในเพลง สากล หลาย ๆ เพลง ที่แทรกอยู่ตาม scene ต่างๆ ว่า น่า จะเป็นจุดเริ่มต้น ของการวางพล็อตของเรื่องด้วยซ้ำไป ทั้งดนตรีบรรเลง ที่มีอยู่ ทั้งเพลงร้องที่หลาย ๆคนพอรู้จัก ถึงได้สอดคล้องลงตัวอย่างพอเหมาะพอเจาะ กับ เนื้อเรื่องอย่างนี้ แถม ไม่ใช่ใช่แค่การลงตัวเท่านั้น สิ่งเหล่านั้น ล้วนเป็นความไพเราะซาบซึ้งอย่างยิ่งยวดอีกต่างหาก และยังหมายรวมไปถึงเพลงประกอบของ ซี่รี่ส์ ที่ใช้เนื้อเพลงเป็นภาษาเกาหลีด้วย ยิ่งติดตามรายละเอียดเล็กๆน้อย ๆ จะยิ่งพบว่า เพลงรักในสายลมหนาว มีมนต์เสน่ห์ เย้ายวน ให้ยิ่งดื่มด่ำลึกซึ้ง ยากจะถ่ายถอนตัวเองให้หลุดพ้นออกมาได้เสียแล้ว
ท้ายที่สุด ของมนต์เสน่ห์ ที่เรา ถลำลึกแล้ว ยิ่งมิอาจจะคิดถ่ายถอนตนเองออกมายอมหลงอยู่ในวังวน ของเพลงรักในสายลมหนาว นี้ ก็ เพราะ เบ ยองจุน ที่สวมวิญญาณ ของคังจุนซาง และ ลีมินฮุง รวมทั้ง ชอยจิวู ด้วย
หากเพลงรักในสายลมหนาว จะบรรเลง และพัดโบก คราใด ก็ตามแต่ หากมิใช่ เบ ยองจุน เพลงรักนั้น สายลมนั้น ก็คง มิมีวัน เป็น เพลงรักในสายลมหนาว ....... ได้. เป็นแน่แท้
(ดอกมูกุงฮวา ดูตามภาพแล้ว ไม่น่าจะมีกลิ่นหอม แต่เกสรดอกไม้ทุกดอก น่าจะหอมและหวานสำหรับ แมลง ภมร ผึ้ง)
Episode - 1
ที่หน้าโรงเรียน หลังจาก ยูจิน พา จุนซาง หลบอาจารย์จอมมาร( กากาเมล)มาได้ ยูจิน เหยียบหลัง คังจุนซาง ปีนขึ้นไปนั่งบนกำแพง รั้วโรงเรียน คังจุนซาง กระโดดข้ามกำแพงเอง โดยไม่ส่งมือให้ ยูจิน ช่วยดึง คังจุนซาง หยิบรองเท้านักเรียนให้ ยูจิน สวมแล้วทำท่าจะรับ ยูจิน ลงจากกำแพง แต่ ยูจิน วางมาดไม่รับความช่วยเหลือ แต่สุดท้ายก็ไม่กล้ากระโดดลงพื้นเอง ต้องให้ จุนซาง ช่วยอยู่ดี ยูจินเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของ จุนซาง แล้วเสียหลัก เซทั้งคู่ ยูจิน ทำท่าเขิน ผละออกมาและแก้เขินด้วยการออกคำสั่งกับ จุนซางว่า
เราต้องจัดรายการตอนพักกลางวัน อย่า มาสายล่ะ…
แล้วหันหลังให้ มีเป้หนังสือ สีสันน่ารักสะพายหลัง ทำท่าจะเดินจากไป ก็มีเสียงเรียกว่า
ยูจิน...
ยูจินหันมามองจุนซาง
เธอลืมรูดซิป
ยูจินตกใจรีบหันหน้ากลับก้มมองกระโปรงนักเรียนด้านหน้าของตัวเอง ….(.คงเพราะตกใจ...อาย... เอจะสรุปว่า ซิป กระโปรงนักเรียน ที่เกาหลี อยู่ด้านหน้า ไหมหนอ)
ซิปกระเป๋า ...น่ะ
ยูจิน หันขวับมาที่ จุนซางที่ยืนอยู่ข้างหลัง สะบัดเสียงแบบเสียหน้า อาย และแสนงอนว่า
ฉันรู้แล้วน่ะ....
ตอนพักกลางวัน
......... ในห้องกระจายเสียงของชมรม ฯ สาวน้อย ก้มมองนาฬิกาข้อมือ แล้ว ก็ ปล่อยเสียงออกจากริมฝีปากว่า
ช็วส์... กะแล้วเชียว ว่านายต้องเบี้ยว อีก .....คอยดูเถอะ คังจุนซาง
.ยูจิน จับไมค์ ขึ้นพูดว่า สวัสดีค่ะ พบกับ CHBS ช่วงพักเที่ยงนะคะ วันนี้ฉันอยากจะพูดเรื่องความรับผิดชอบน่ะค่ะ ฉันสัญญากับเพื่อนคนหนึ่งไว้ว่าเค้าจะมาร่วมจัดรายการตอนช่วงพักกลางวัน แต่เพื่อนฉันเขาไม่ยอมโผล่มา ต้องขอขอบคุณเค้านะคะ ที่ฉันต้องจัดรายการคนเดียว ทั้งๆ ที่ท้องฉันมันร้องน่ะค่ะ ฉันออกชื่อเขาไม่ได้.... ตอนนี้ถ้าเขากำลังฟังอยู่ ยังไงก็จำไว้ ว่าคุณเป็นคนเห็นแก่ตัว ทำร้ายจิตใจคนอื่น อย่างเลือดเย็น
แน่ะฉันอาจจะพูดเรื่องส่วนตัวไปหน่อย ต้องขอโทษนะคะ คือเพลงแรกในวันนี้ ที่ฉันจะเล่นให้ฟัง เป็น เพลง Dancing Queen ขับร้องโดย Abba น่ะค่ะ
แล้วเสียงเพลงก็ดังขึ้น หนุ่มน้อย คังจุนซาง นอนเหยียดยาวอยู่บนเก้าอี้ที่เอามาต่อเรียงกัน มีหนังสือกางปิดหน้าตัวเองไว้ ต้องระบายรอยยิ้ม ขำขัน เสียงต่อว่าต่อขานของสาวน้อย ยูจิน ที่เขาไม่ไปตามนัด แล้วก็เดิน ตัวตรงไปที่ห้องกระจายเสียง ..... เมื่อเปิดประตูห้อง ผางออกมา ก็ต้องชะงัก ชักเท้ากลับ งับบานประตู แล้ว ค่อย ๆ แง้มบานประตูใหม่ สายตาจับจ้องแอบมอง พร้อมอมยิ้มกับตัวเอง ดู ยูจิน เริงร่า ทั้งมือไม้ ทั้งหมุนตัว ทำท่าทั้งสนุกสนาน ทั้ง เคลิบเคลื้ม ทั้งมันส์ในอารมณ์ของตัวเอง หยิบไมค์ มาทำท่าร้องคลอไปด้วย ท่าทางของ ยูจิน ทั้งร่าเริง แจ่มใส น่ารักเป็นนักหนา ทั้งในสายตา ของจุนซาง และคนดูอย่างพวกเรา แต่ ยิ่งกว่านั้น คือหน้าตาท่าทาง ของ จุนซาง ที่ทำท่า เอ็นดูภาพข้างหน้า เหมือนกับว่า จุนซาง ตกหลุมรัก ยูจิน ในขณะนั้นไปเสียแล้ว (ไม่เหมือนหรอกนะคะ จุนซางหลงรัก ยูจิน จริง ๆ เสียแล้ว ด้วย บรรยากาศนี้เองตามความรู้สึกของคนเล่า) แล้ว จุนซาง ก็เปิดประตูกว้าง พาตัวเองเข้าไปในห้อง ทำท่าเหมือนเพิ่งเข้ามาจริงๆ ทั้งคู่สบตากัน ต่างสื่อความในใจของกันและกัน แล้วจุนซางก็เมินสายตาหลบสายตา ยูจิน ส่วน ยูจิน ที่ ตาโต ทำท่าชะงักค้าง ค่อย ๆ เอียงข้างหันตัวหนีสายตาของ จุนซาง เหมือนกัน
แล้วก็ต่างคนต่างเขิน ยูจิน เขินอายได้แต่มุดตัวลงใต้โต๊ะ เมื่อเงยขึ้นมาก็เอาปกแผ่นเสียง มาดูแก้อาย จุนซาง ก็ แสร้งทำเป็นไม่เห็นภาพเมื่อครู่ของ ยูจิน เดินเข้าไปในห้อง นั่งลง เมื่อเหลียวไปเห็นสมุดวาดภาพของ ยูจินก็ หยิบเอาสมุด มาดู แก้เขิน(ที่น่ารักมาก ) ของตัวเองเหมือนกัน ท่าทางที่ ยูจิน เงยหน้าและชม้ายตามอง จุนซาง น่ารักมากเลย
จุนซาง ทำท่าทาง ไม่รู้ไม่ชี้ นั่งลงเปิดหน้าสมุดออกดูต่างแอบมองกันและกัน เมื่อ ยูจิน เห็น จุนซาง กำลังดูสมุดของตัวเอง ก็ ทำท่าบอก จุนซาง ไม่ให้ดู แต่ จุนซาง ก็ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ อมยิ้ม ถูกอกถูกใจกับสถานการณ์ในขณะนั้นเสียเหลือเกิน เปิดหน้าสมุดไปเรื่อยๆ ยูจิน นั้นทั้งโกรธทั้งอายทั้งเขิน ทำท่าทางห้าม จุนซาง เต็มที่ เหมือนจะบอกว่า ห้ามดูนะ ดูไม่ได้นะ
แล้ว ทุกคนที่นั่งรับประทานอาหารตามโต๊ะต่างๆ นอกห้องกระจายเสียง ก็พากันสะดุ้งตกใจ... กับเสียง ของ ยูจิน ที่พูดเสียงดัง ผ่านไมค์ แบบเอาเรื่อง แหลมปรี๊ดขึ้นมาว่า
นี่!!!....
ทั้ง ซังฮวก และ ยงกุ๊ก ผุดลุกขึ้น วิ่งหน้าเริด ไปห้องเกิดเหตุ ยูจิน ถือสมุดวาดภาพของตนเดิน ออกมานอกห้องอย่างรวดเร็วแทบชนกับเพื่อนฝูง
และ จุนซาง กำลังนั่งถือแผ่นเพลงในห้องด้วยใบหน้าที่ยิ้มละไม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่กำลังมีความสุขกับแผ่นเสียงในมือ ก้มหน้าเอาปากเป่าเศษผงที่อาจจะมีบนแผ่นเสียงนั้น
Scene นี้ ถูกต้องไหมคะ คุณ Evebyj ก็คุณ Evebyj เพิ่งบอกเล่าเมื่อ วันงานมิตติ้ง 22 /11/08 นี้ว่า ดู เรื่องนี้เป็นครั้งที่ 100 แล้ว คุณ ladymoon คะ ขอความกรุณาลงเพลงประกอบด้วยได้ไหมคะเพลง Dancing Queen ของ Abba ขอบคุณค่ะ
ขอ ให้ แฟน ๆ WLS มีความสุข นะคะ คนเล่าเองด้วยค่ะ Key ไป ก็นั่งอมยิ้ม กับ จุนซาง และ ยูจิน ไป...... เป็น ภาพ Pupy Love ที่น่ารัก น่าเอ็นดู ที่สุด ที่เคยดูมาทั้งหมดในชีวิตของ คนเล่า ทั้งยงจุน และชอยจิวู หน้าตาใสซื่อ แป๋วแหว๋ว น่ารักจริงๆ (ซื่อใสนะคะ ไม่ใช่ซื่อบื้ออย่างบางเรื่องของคนอื่นๆ)
The land of shadows: Jun-sang
Do you know the story about a person who went to the land of the shadows?.... A man went to the land of shadows. All the shadows didn't even want to talk to him. Then what happened? Then this man was very lonely
How to make a friend: Yoo-jin
I think you need a friend. It won't be so bad to be in good relationship with your classmates, is it? Shall I give you a tip on how to make a friend? It's really simple. You just need to go nearer to the person step by step. But you shouldn't do that for just one person. Watch. Right foot, left foot. Right foot, left foot. You can become better friends if you keep going nearer
Reason for missing someone: Jun-sang
Are you the kind who never makes the same mistake twice or the kind who can't help making the same mistake twice? ... For example, you decided that you won't see someone again. Would you keep it that way or would you see that person again?
Yoo-jin :
I would try to see that person again.
Jun-sang :
Why?
Yoo-jin: :
You don't have to have a reason for missing someone.
ขออนุญาต แสดงความรู้สึกส่วนตัว เกี่ยวกับ อมตะนิรันดร์กาล ของละคร เพลงรักในสายลมหนาว
รู้สึก ชื่นชมกับละครและนวนิยายเรื่องนี้มาก เมื่อปี 2548 แต่แล้วในปี 2550 คุณร้อยตะวันก็มาจุดประกาย เล่าจุดเล็กจุดน้อยใน ละครเรื่องนี้ เสียจน ได้รับความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนละมุนละไม ของ เพลงรักในสายลมหนาว
เพลงรักในสายลมหนาว ปี 2550 ที่เกิดจากการประสาน บทบาท การดำเนินเรื่องของตัวละครในละคร ที่เราได้ชมกันแล้ว และนวนิยาย ที่คุณ รำพรรณ แปล ความมาจากผู้เขียน คิมอุนฮี และ ยุน อุน ควง ซึ่ง ได้อ่านมาแล้วเมื่อปี 2548 หากมาย้อนนึกใหม่ ตามบทบาทที่ ยงจุน ของเราแสดง ตามสคริปต์ ผสมด้วยคาแรคเตอร์ ส่วนตัวเองของยงจุนและตัวแสดงอื่น ๆ ทุกตัวละคร ต้องขอยอมรับนับถือ เพลงรักในสายลมหนาวจริง ๆ รวมทั้งคุณรำพรรณ รักศรีอักษร ผู้แปลความ คุณ ร้อยตะวัน ผู้แปลถ้อยร้อยความละคร และหนังสือ รวมกันเป็นหนึ่งเดียวใหม่
รู้สึกว่า พวกเรา ทั้งหลายที่ชื่นชอบ เพลงรักในสายลมหนาว เหมือน หมู่แมลงเหล่าภมร ที่ได้มาบินร่อนชมและดอมดม ดอก มูกุงฮวา หรือ โรสออฟชารอน ดอกไม้ประจำชาติของเกาหลี แล้ว ก็ถูกใจ ใน สีสัน ของดอก มูกุงฮวา ได้รู้ ที่มา ที่ไป ความหมายและสีสัน ก็หลงติดใจ ดื่มด่ำ กับ ความงดงาม ของดอกไม้นี้ แล้วก็มี ผีเสื้อ ที่มี ปีกอันอ่อนช้อย พลิ้วพราย ยามพัดกระพือ เคลื่อนไหว บินร่อน มาสู่ดอกไม้นี้เช่นกัน แต่ อย่างพินิจพิเคราะห์ มองกลีบดอกไม้ ทุกกลีบ เห็นแม้ เส้นสายลายเนื้อกลีบดอกสีชมพู บ้าง สีส้ม โอโรส บ้าง สีอ่อนบ้าง เข้มบ้าง จ้องมองไปถึงเกสรแห่ง ดอก มูกุงฮวา นี้ แทบทุกละอองของเกสรสีเหลืองอร่ามงามตา รวมทั้งได้เข้าไปซุกไซร้ พบ ความหอมหวานอบอวลของมวลเหล่าเกสร เหล่านั้น แล้วพบว่า เพลงรักในสายลมหนาว ได้ประมวลความงดงามของดอก มูกุงฮวา ทุกดอกที่บานสะพรั่งเหนือปฐพี เกาหลี ความหอมหวาน ดั่งหยาดหยดมาจากรวงผึ้ง ทุก รังรวง ที่มีอยู่บนพื้นพิภพ มิรู้ที่จะเอ่ยคำที่จะทำให้ซึมซับในความหมายกับหลายๆสิ่งที่ซ่อนอยู่กับบรรดาตัวอักษรคำบรรยาย หรือการสื่อด้วยบทบาทการแสดงที่โลดแล่น บนจอแก้ว ที่มิเคยได้รับรู้มาก่อนเลย
หากผู้ที่ชื่นชอบ เพลงรักในสายลมหนาว ตั้งอกตั้งใจ ดู สัก ยี่สิบรอบ อย่างคุณร้อยตะวัน จะพบว่า สิ่งละอันพันละน้อย ที่ผู้กำกับยุนซุกโฮ ทีมงาน คนเขียนบท ผู้แสดงบทบาท สอดใส่แทรกอยู่ใน ละครนั้น ล้วนมีความหมายที่ยิ่งใหญ่ เป็นความตั้งใจ ซึ่งคุณร้อยตะวันคิดว่า อาจจะเริ่มตั้งต้น มาตั้งแต่ เจ้าของบทประพันธ์ นวนิยาย ที่มีแรงบันดาลใจในเพลง สากล หลาย ๆ เพลง ที่แทรกอยู่ตาม scene ต่างๆ ว่า น่า จะเป็นจุดเริ่มต้น ของการวางพล็อตของเรื่องด้วยซ้ำไป ทั้งดนตรีบรรเลง ที่มีอยู่ ทั้งเพลงร้องที่หลาย ๆคนพอรู้จัก ถึงได้สอดคล้องลงตัวอย่างพอเหมาะพอเจาะ กับ เนื้อเรื่องอย่างนี้ แถม ไม่ใช่ใช่แค่การลงตัวเท่านั้น สิ่งเหล่านั้น ล้วนเป็นความไพเราะซาบซึ้งอย่างยิ่งยวดอีกต่างหาก และยังหมายรวมไปถึงเพลงประกอบของ ซี่รี่ส์ ที่ใช้เนื้อเพลงเป็นภาษาเกาหลีด้วย ยิ่งติดตามรายละเอียดเล็กๆน้อย ๆ จะยิ่งพบว่า เพลงรักในสายลมหนาว มีมนต์เสน่ห์ เย้ายวน ให้ยิ่งดื่มด่ำลึกซึ้ง ยากจะถ่ายถอนตัวเองให้หลุดพ้นออกมาได้เสียแล้ว
ท้ายที่สุด ของมนต์เสน่ห์ ที่เรา ถลำลึกแล้ว ยิ่งมิอาจจะคิดถ่ายถอนตนเองออกมายอมหลงอยู่ในวังวน ของเพลงรักในสายลมหนาว นี้ ก็ เพราะ เบ ยองจุน ที่สวมวิญญาณ ของคังจุนซาง และ ลีมินฮุง รวมทั้ง ชอยจิวู ด้วย
หากเพลงรักในสายลมหนาว จะบรรเลง และพัดโบก คราใด ก็ตามแต่ หากมิใช่ เบ ยองจุน เพลงรักนั้น สายลมนั้น ก็คง มิมีวัน เป็น เพลงรักในสายลมหนาว ....... ได้. เป็นแน่แท้
(ดอกมูกุงฮวา ดูตามภาพแล้ว ไม่น่าจะมีกลิ่นหอม แต่เกสรดอกไม้ทุกดอก น่าจะหอมและหวานสำหรับ แมลง ภมร ผึ้ง)
Episode - 1
ที่หน้าโรงเรียน หลังจาก ยูจิน พา จุนซาง หลบอาจารย์จอมมาร( กากาเมล)มาได้ ยูจิน เหยียบหลัง คังจุนซาง ปีนขึ้นไปนั่งบนกำแพง รั้วโรงเรียน คังจุนซาง กระโดดข้ามกำแพงเอง โดยไม่ส่งมือให้ ยูจิน ช่วยดึง คังจุนซาง หยิบรองเท้านักเรียนให้ ยูจิน สวมแล้วทำท่าจะรับ ยูจิน ลงจากกำแพง แต่ ยูจิน วางมาดไม่รับความช่วยเหลือ แต่สุดท้ายก็ไม่กล้ากระโดดลงพื้นเอง ต้องให้ จุนซาง ช่วยอยู่ดี ยูจินเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของ จุนซาง แล้วเสียหลัก เซทั้งคู่ ยูจิน ทำท่าเขิน ผละออกมาและแก้เขินด้วยการออกคำสั่งกับ จุนซางว่า
เราต้องจัดรายการตอนพักกลางวัน อย่า มาสายล่ะ…
แล้วหันหลังให้ มีเป้หนังสือ สีสันน่ารักสะพายหลัง ทำท่าจะเดินจากไป ก็มีเสียงเรียกว่า
ยูจิน...
ยูจินหันมามองจุนซาง
เธอลืมรูดซิป
ยูจินตกใจรีบหันหน้ากลับก้มมองกระโปรงนักเรียนด้านหน้าของตัวเอง ….(.คงเพราะตกใจ...อาย... เอจะสรุปว่า ซิป กระโปรงนักเรียน ที่เกาหลี อยู่ด้านหน้า ไหมหนอ)
ซิปกระเป๋า ...น่ะ
ยูจิน หันขวับมาที่ จุนซางที่ยืนอยู่ข้างหลัง สะบัดเสียงแบบเสียหน้า อาย และแสนงอนว่า
ฉันรู้แล้วน่ะ....
ตอนพักกลางวัน
......... ในห้องกระจายเสียงของชมรม ฯ สาวน้อย ก้มมองนาฬิกาข้อมือ แล้ว ก็ ปล่อยเสียงออกจากริมฝีปากว่า
ช็วส์... กะแล้วเชียว ว่านายต้องเบี้ยว อีก .....คอยดูเถอะ คังจุนซาง
.ยูจิน จับไมค์ ขึ้นพูดว่า สวัสดีค่ะ พบกับ CHBS ช่วงพักเที่ยงนะคะ วันนี้ฉันอยากจะพูดเรื่องความรับผิดชอบน่ะค่ะ ฉันสัญญากับเพื่อนคนหนึ่งไว้ว่าเค้าจะมาร่วมจัดรายการตอนช่วงพักกลางวัน แต่เพื่อนฉันเขาไม่ยอมโผล่มา ต้องขอขอบคุณเค้านะคะ ที่ฉันต้องจัดรายการคนเดียว ทั้งๆ ที่ท้องฉันมันร้องน่ะค่ะ ฉันออกชื่อเขาไม่ได้.... ตอนนี้ถ้าเขากำลังฟังอยู่ ยังไงก็จำไว้ ว่าคุณเป็นคนเห็นแก่ตัว ทำร้ายจิตใจคนอื่น อย่างเลือดเย็น
แน่ะฉันอาจจะพูดเรื่องส่วนตัวไปหน่อย ต้องขอโทษนะคะ คือเพลงแรกในวันนี้ ที่ฉันจะเล่นให้ฟัง เป็น เพลง Dancing Queen ขับร้องโดย Abba น่ะค่ะ
แล้วเสียงเพลงก็ดังขึ้น หนุ่มน้อย คังจุนซาง นอนเหยียดยาวอยู่บนเก้าอี้ที่เอามาต่อเรียงกัน มีหนังสือกางปิดหน้าตัวเองไว้ ต้องระบายรอยยิ้ม ขำขัน เสียงต่อว่าต่อขานของสาวน้อย ยูจิน ที่เขาไม่ไปตามนัด แล้วก็เดิน ตัวตรงไปที่ห้องกระจายเสียง ..... เมื่อเปิดประตูห้อง ผางออกมา ก็ต้องชะงัก ชักเท้ากลับ งับบานประตู แล้ว ค่อย ๆ แง้มบานประตูใหม่ สายตาจับจ้องแอบมอง พร้อมอมยิ้มกับตัวเอง ดู ยูจิน เริงร่า ทั้งมือไม้ ทั้งหมุนตัว ทำท่าทั้งสนุกสนาน ทั้ง เคลิบเคลื้ม ทั้งมันส์ในอารมณ์ของตัวเอง หยิบไมค์ มาทำท่าร้องคลอไปด้วย ท่าทางของ ยูจิน ทั้งร่าเริง แจ่มใส น่ารักเป็นนักหนา ทั้งในสายตา ของจุนซาง และคนดูอย่างพวกเรา แต่ ยิ่งกว่านั้น คือหน้าตาท่าทาง ของ จุนซาง ที่ทำท่า เอ็นดูภาพข้างหน้า เหมือนกับว่า จุนซาง ตกหลุมรัก ยูจิน ในขณะนั้นไปเสียแล้ว (ไม่เหมือนหรอกนะคะ จุนซางหลงรัก ยูจิน จริง ๆ เสียแล้ว ด้วย บรรยากาศนี้เองตามความรู้สึกของคนเล่า) แล้ว จุนซาง ก็เปิดประตูกว้าง พาตัวเองเข้าไปในห้อง ทำท่าเหมือนเพิ่งเข้ามาจริงๆ ทั้งคู่สบตากัน ต่างสื่อความในใจของกันและกัน แล้วจุนซางก็เมินสายตาหลบสายตา ยูจิน ส่วน ยูจิน ที่ ตาโต ทำท่าชะงักค้าง ค่อย ๆ เอียงข้างหันตัวหนีสายตาของ จุนซาง เหมือนกัน
แล้วก็ต่างคนต่างเขิน ยูจิน เขินอายได้แต่มุดตัวลงใต้โต๊ะ เมื่อเงยขึ้นมาก็เอาปกแผ่นเสียง มาดูแก้อาย จุนซาง ก็ แสร้งทำเป็นไม่เห็นภาพเมื่อครู่ของ ยูจิน เดินเข้าไปในห้อง นั่งลง เมื่อเหลียวไปเห็นสมุดวาดภาพของ ยูจินก็ หยิบเอาสมุด มาดู แก้เขิน(ที่น่ารักมาก ) ของตัวเองเหมือนกัน ท่าทางที่ ยูจิน เงยหน้าและชม้ายตามอง จุนซาง น่ารักมากเลย
จุนซาง ทำท่าทาง ไม่รู้ไม่ชี้ นั่งลงเปิดหน้าสมุดออกดูต่างแอบมองกันและกัน เมื่อ ยูจิน เห็น จุนซาง กำลังดูสมุดของตัวเอง ก็ ทำท่าบอก จุนซาง ไม่ให้ดู แต่ จุนซาง ก็ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ อมยิ้ม ถูกอกถูกใจกับสถานการณ์ในขณะนั้นเสียเหลือเกิน เปิดหน้าสมุดไปเรื่อยๆ ยูจิน นั้นทั้งโกรธทั้งอายทั้งเขิน ทำท่าทางห้าม จุนซาง เต็มที่ เหมือนจะบอกว่า ห้ามดูนะ ดูไม่ได้นะ
แล้ว ทุกคนที่นั่งรับประทานอาหารตามโต๊ะต่างๆ นอกห้องกระจายเสียง ก็พากันสะดุ้งตกใจ... กับเสียง ของ ยูจิน ที่พูดเสียงดัง ผ่านไมค์ แบบเอาเรื่อง แหลมปรี๊ดขึ้นมาว่า
นี่!!!....
ทั้ง ซังฮวก และ ยงกุ๊ก ผุดลุกขึ้น วิ่งหน้าเริด ไปห้องเกิดเหตุ ยูจิน ถือสมุดวาดภาพของตนเดิน ออกมานอกห้องอย่างรวดเร็วแทบชนกับเพื่อนฝูง
และ จุนซาง กำลังนั่งถือแผ่นเพลงในห้องด้วยใบหน้าที่ยิ้มละไม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่กำลังมีความสุขกับแผ่นเสียงในมือ ก้มหน้าเอาปากเป่าเศษผงที่อาจจะมีบนแผ่นเสียงนั้น
Scene นี้ ถูกต้องไหมคะ คุณ Evebyj ก็คุณ Evebyj เพิ่งบอกเล่าเมื่อ วันงานมิตติ้ง 22 /11/08 นี้ว่า ดู เรื่องนี้เป็นครั้งที่ 100 แล้ว คุณ ladymoon คะ ขอความกรุณาลงเพลงประกอบด้วยได้ไหมคะเพลง Dancing Queen ของ Abba ขอบคุณค่ะ
ขอ ให้ แฟน ๆ WLS มีความสุข นะคะ คนเล่าเองด้วยค่ะ Key ไป ก็นั่งอมยิ้ม กับ จุนซาง และ ยูจิน ไป...... เป็น ภาพ Pupy Love ที่น่ารัก น่าเอ็นดู ที่สุด ที่เคยดูมาทั้งหมดในชีวิตของ คนเล่า ทั้งยงจุน และชอยจิวู หน้าตาใสซื่อ แป๋วแหว๋ว น่ารักจริงๆ (ซื่อใสนะคะ ไม่ใช่ซื่อบื้ออย่างบางเรื่องของคนอื่นๆ)
The land of shadows: Jun-sang
Do you know the story about a person who went to the land of the shadows?.... A man went to the land of shadows. All the shadows didn't even want to talk to him. Then what happened? Then this man was very lonely
How to make a friend: Yoo-jin
I think you need a friend. It won't be so bad to be in good relationship with your classmates, is it? Shall I give you a tip on how to make a friend? It's really simple. You just need to go nearer to the person step by step. But you shouldn't do that for just one person. Watch. Right foot, left foot. Right foot, left foot. You can become better friends if you keep going nearer
Reason for missing someone: Jun-sang
Are you the kind who never makes the same mistake twice or the kind who can't help making the same mistake twice? ... For example, you decided that you won't see someone again. Would you keep it that way or would you see that person again?
Yoo-jin :
I would try to see that person again.
Jun-sang :
Why?
Yoo-jin: :
You don't have to have a reason for missing someone.
Stem cell & Lee min hyung
คุณ ร้อยตะวัน เคยเกริ่น ไว้เกือบ 2 เดือน แล้ว ว่า อยาก ย้อนวันวาร กับ WLS
และดิฉันเอง ก็เป็นนักเรียน หนีโรงเรียน เหมือนกับคุณ Starpolaris เลย การบ้านก็ไม่ค่อยได้ทำส่ง ก็เลยขอถือโอกาส รายงานตัว ด้วยการเปิดประเด็น WLS ปัญหาก็คือ ภาษาไทยอีกแล้ว
และดิฉันเอง ก็เป็นนักเรียน หนีโรงเรียน เหมือนกับคุณ Starpolaris เลย การบ้านก็ไม่ค่อยได้ทำส่ง ก็เลยขอถือโอกาส รายงานตัว ด้วยการเปิดประเด็น WLS ปัญหาก็คือ ภาษาไทยอีกแล้ว
การที่ ลีมินฮุง ประสบอุบัติเหตุ แล้วเกิด ไซด์ เอฟเฟค ก้อนเลือด กดทับประสาทตา ทำให้ ลีมินฮุงต้องไปผ่าตัดที่อเมริกา แล้ว สุดท้ายก็ สายตามองไม่เห็น เมื่อ 3 ปี ผ่านไป เป็นการจบ ที่พวกเราจำนวนมากมาย แสนสงสารและเสียดาย เป็นที่ยิ่ง มีคนในวงการที่คิดอยากสร้างภาพยนตร์ แต่ไม่อยากจบเรื่องแบบนี้ มันสะท้อนสะท้านใจคนดู บางคนคิดไปไกลว่า เมื่อ ลีมินฮุงแต่งงานกับจุงยูจิน แล้ว มีลูกน่ารัก ๆ อย่างที่ มีภาพวาด หลายภาพ
โถ....... ลีมินฮุง ไม่ได้มีโอกาส มองเห็น สายเลือด สายใยแห่ง ปาฏิหาริย์ รัก แท้ แม้ จากกัน 2 ครั้ง 13 ปี ยังมีวันหวนคืนและสมหวังดั่งปรารถนาที่รอคอยกันมานานขนาดนี้ แค่คิดก็ ปวดร้าวใจ แทน ลีมินฮุง และจุงยูจินเสียยิ่งนักแล้ว
มีผู้ที่สนใจในเรื่องนี้ ไปค้นคว้าหาคำตอบ และมีคนที่อยู่ในวงการที่รู้จัก มีเหตุการณ์ คล้าย ลีมินฮุง มาเป็น กรณีศึกษา นั่นยังไม่เพียงพอ ที่จะยืนยันคำตอบ จึงมีการปรึกษาหารือ แพทย์เฉพาะทางจนได้คำตอบมา และ ได้เล่าสู่ให้คนเล่าทราบ
จากเหตุการณ์จริง มีชายผู้หนึ่ง ประสบอุบัติเหตุ รถชนเหมือนกัน แต่ คนเจ็บ ขี่มอเตอร์ไซด์ หลังอุบัติเหตุ ชายผู้นี้ มีก้อนเลือดทับประสาทตา เช่นกัน ตามองไม่เห็น ทั้ง 2 ข้าง เมื่อได้รับการผ่าตัดเอาก้อนเลือดนี้ออก ขั้นต้น ก็ยัง มองอะไรไม่เห็น แต่ได้รับการแนะนำจากแพทย์ ในเรื่องการรับประทานอาหาร เขารับประทาน อาหารที่สารอาหาร และธัญพืช ต่าง ๆ ที่ช่วยส่งเสริม การคืนกลับ สมรรถนะของประสาท ตา อย่างจริงจังและต่อเนื่อง หลายปี ผ่านไป ประสาทตา ข้างหนึ่ง สามารถ ฟื้นฟูสภาพ ได้ เขาสามารถ มองเห็นได้ลาง ๆ ด้วย ดวงตา ข้างหนึ่ง ที่มีการสร้าง เซลใหม่ขึ้นมาได้ เขาต้องตัดแว่นช่วยเสริมความสามารถในการมองเห็น แต่ว่าเลนส์กระจกหนามาก เป็น พัน ขึ้นไป เขายังคงเคร่งครัดกับเรื่องอาหาร ในขณะนี้ สายตา ใช้เลนส์ที่มีความสั้นน้อยลง น่าจะประมาณ 800 แต่ ถ้าเป็นการมองในความสลัวลาง ๆ หรือในที่ มืด มิด กระจกเลนส์สายตา ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เขาก็จะมองไม่เห็น แต่ชาย คนนี้ ได้สายตา กลับคืนมา เพียงข้างเดียว
แต่ ก็ ยังนับได้ว่า โชคดีแล้ว ในโลกนี้ จะมีความสวยสดงดงาม อะไร ที่จะงดงาม ได้เท่า การที่จะได้ มองเห็นคนที่ตัวเองรัก ใน อากัปกิริยา ต่าง ๆ ทั้งหญิงคนรัก ทั้งสายเลือดแห่งรัก ของ ตนเอง
นี่เป็นเรื่องจริง และได้ สอบถาม ไปยังแพทย์ ที่เชี่ยวชาญในด้านสายตา ว่า ชายในเรื่องจริงคนนี้ ไม่ใช่เรื่องของการเกิดปาฏิหาริย์ หากแต่ เป็น เรื่องจริง ตามหลักวิชาการแพทย์ ที่เป็นไปได้ และ ในกรณีเช่นนี้ แพทย์ ในเมืองไทย ก็ ความสามารถ ทำได้ มีนายแพทย์ ท่านหนึ่ง เก่งมากเป็น นายแพทย์ ประจำที่โรงพยาบาล รามาธิบดี ของจริงแท้ แน่นอน
สำหรับ ลีมินฮุงนั้น ก้อนเลือดค่อยๆ คั่งและกดทับประสาทตา ทำให้มีผลกระทบกับสายตา สุดท้ายก็มองไม่เห็น ซึ่งลีมินฮุงก็ได้ไปผ่าตัดที่อเมริกา คาดว่าน่าจะผ่าตัดเอาก้อนเลือดออกไปด้วยแน่
แต่การแพทย์ปัจจุบันนี้มีวิธีการรักษาที่เป็นที่ยอมรับทั้งในยุโรปและอเมริกา ซึ่งวิธีการการรักษานี้บางท่านอาจเคยได้ยินมาบ้างนั่นคือการทำ เสตมเซล (Stem Cell) คือการรักษาโดยเอาเซลล์ซึ่งติดอยู่กับรกเด็กที่คลอดใหม่ไปเพาะเลี้ยงแล้วนำมาซ่อมแซมกับร่างกายของผู้ป่วย ซึ่งวิธีการนี้เป็นเพียงหนทางเดียวเท่านั้นที่จะสามารถฟื้นฟูและพัฒนาเซลล์ ประสาทตาได้การพัฒนาเซลล์ประสารทนี้ ทางการแพทย์เรียกว่า “ NEURAL STEM CELL” คือการเลี้ยงเซลล์เพื่อนำไปพัฒนาและฟื้นฟูเกี่ยวกับประสาทตาโดยตรง ประกอบกับหลักการรับประทานอาหารควบคู่กับการฟื้นฟูสภาพจิตใจด้วยร่วมกัน จะทำให้การซ่อม เซลล์มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรวดเร็วขึ้น แต่จะได้ผลดี 100% นั้นคงเป็นไปไม่ได้ แต่ก็เป็นเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่จะทำการรักษาให้สามารถมองเห็นได้ ค่าใช้จ่ายคิดแล้วประมาณ 1.5 – 2 ล้านบาทไทย เพราะจะต้องทำอย่างน้อยประมาณ 3-4 ครั้ง ค่าใช้จ่ายครั้งละ3-5 แสนบาท
ข้อมูลนี้มาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน Stem Cell ของประเทศไทย ซึ่งประจำอยู่ที่ร่วมฤดีคลินิก คือ นายแพทย์ฉัตรชัย ศรีบัณทิต
ขอขอบพระคุณ ที่คุณ ร้อยตะวันบอกกล่าวเล่าให้ฟังเมื่อปี2007 และให้คำอธิบายรายละเอียดนี้ไว้
สำหรับลีมินฮุง นับได้ว่า เป็นคนมีฐานะดี มีเงินทองมากมาย นี่นับว่าเป็นเรื่องเล็กเพียงแต่ว่า.......... ต้องใช้ระยะเวลา
เวลา แค่ 3 ปี ใน ละคร ลีมินฮุง ยัง ไม่สามารถมองเห็นได้ ส่วนการฟื้นฟูสภาพจิตใจ นั้น ลีมินฮุง มีจุงยูจิน และน่าจะมี มินฮุงน้อย หรือยูจินน้อย หรือ อาจจะมี ทั้งสองคน(หรือมากกว่า) เป็น แรงใจ เป็นกำลังใจ เป็น หยาดน้ำทิพย์ชโลมใจ ให้กับลีมินฮุง อยู่แล้ว ลีมินฮุงอาจมองเห็นโลกที่สวยงามอบอวลด้วยความรัก ด้วยดวงตาทั้ง 2 ข้าง
ลีมินฮุง คง กลับไปรักษาที่อเมริกาต่อ (ในช่วงเวลา 3 ปี หลังผ่าตัด ลีมินฮุง ส่วนใหญ่ แล้ว ก็ อยู่ ที่ อเมริกา อยู่แล้ว) หวังว่า นี่น่าจะเป็น ข่าวที่น่ายินดี ของ แฟนคลับคุณลีมินฮุง คนเล่าเอง ยังดีใจ ปลื้มใจ มาก ๆเลย ยังกับ ตัวเอง เป็น จุงยูจิน รู้สึกเหมือนกับว่า ...คล้ายกับว่า ...จากปี 2002 จนปัจจุบัน ปี 2008 ลี มินฮุง น่าจะ ได้ ดวงตาที่จะทอดทัศนาสรรพสิ่งในโลกนี้ได้แล้ว คือจากในละคร ผ่าตัดแล้ว 3 ปี รวม ปี 2008 นี้ ก็ 9 ปีแล้ว
และในคืนข้างแรมหลังประเพณีลอยกระทง ( ซึ่งที่เกาหลีก็มีประเพณีนี้เช่นกัน) ลี มินฮุง อาจกำลังชี้ชวน จุงยูจิน ให้ชมดาวเหนือ โพราริส ที่บ้านพักชายทะเลที่เกาหลี และในบ้านอาจมีเด็กน้อยทั้งหญิงและชาย 2 คนขึ้นไป นอนหลับอุตุอยู่ในห้องนอน ส่วนพ่อแม่ ก็ ออกมานั่ง รำพึงถึงความหลังกันก็เป็นไปได้ ลีมินฮุง คงขยับเสื้อโค๊ด กางออก โอบ ยูจิน ให้เข้ามาอยู่ในเสื้อตัวเดียวกัน เพราะอากาศคงเย็น และ ลีมินฮุง ก็คง บอกว่า ผมอยากให้อากาศหนาวกว่านี้
Can you see the stars in the shape of Cassiopeia? Can you Polaris beside that? The star of the polar. Can you see the big star in between the Big Dipper and Cassiopeia? Whenever you get lost in the mountain, look for the Polaris first. And then you open your arms and be a compass .... Polaris doesn't move the whole year round. You will be able to find it easily whenever you are. When you are lost, try to find Polaris first. It will be there where you last saw it.
โถ....... ลีมินฮุง ไม่ได้มีโอกาส มองเห็น สายเลือด สายใยแห่ง ปาฏิหาริย์ รัก แท้ แม้ จากกัน 2 ครั้ง 13 ปี ยังมีวันหวนคืนและสมหวังดั่งปรารถนาที่รอคอยกันมานานขนาดนี้ แค่คิดก็ ปวดร้าวใจ แทน ลีมินฮุง และจุงยูจินเสียยิ่งนักแล้ว
มีผู้ที่สนใจในเรื่องนี้ ไปค้นคว้าหาคำตอบ และมีคนที่อยู่ในวงการที่รู้จัก มีเหตุการณ์ คล้าย ลีมินฮุง มาเป็น กรณีศึกษา นั่นยังไม่เพียงพอ ที่จะยืนยันคำตอบ จึงมีการปรึกษาหารือ แพทย์เฉพาะทางจนได้คำตอบมา และ ได้เล่าสู่ให้คนเล่าทราบ
จากเหตุการณ์จริง มีชายผู้หนึ่ง ประสบอุบัติเหตุ รถชนเหมือนกัน แต่ คนเจ็บ ขี่มอเตอร์ไซด์ หลังอุบัติเหตุ ชายผู้นี้ มีก้อนเลือดทับประสาทตา เช่นกัน ตามองไม่เห็น ทั้ง 2 ข้าง เมื่อได้รับการผ่าตัดเอาก้อนเลือดนี้ออก ขั้นต้น ก็ยัง มองอะไรไม่เห็น แต่ได้รับการแนะนำจากแพทย์ ในเรื่องการรับประทานอาหาร เขารับประทาน อาหารที่สารอาหาร และธัญพืช ต่าง ๆ ที่ช่วยส่งเสริม การคืนกลับ สมรรถนะของประสาท ตา อย่างจริงจังและต่อเนื่อง หลายปี ผ่านไป ประสาทตา ข้างหนึ่ง สามารถ ฟื้นฟูสภาพ ได้ เขาสามารถ มองเห็นได้ลาง ๆ ด้วย ดวงตา ข้างหนึ่ง ที่มีการสร้าง เซลใหม่ขึ้นมาได้ เขาต้องตัดแว่นช่วยเสริมความสามารถในการมองเห็น แต่ว่าเลนส์กระจกหนามาก เป็น พัน ขึ้นไป เขายังคงเคร่งครัดกับเรื่องอาหาร ในขณะนี้ สายตา ใช้เลนส์ที่มีความสั้นน้อยลง น่าจะประมาณ 800 แต่ ถ้าเป็นการมองในความสลัวลาง ๆ หรือในที่ มืด มิด กระจกเลนส์สายตา ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เขาก็จะมองไม่เห็น แต่ชาย คนนี้ ได้สายตา กลับคืนมา เพียงข้างเดียว
แต่ ก็ ยังนับได้ว่า โชคดีแล้ว ในโลกนี้ จะมีความสวยสดงดงาม อะไร ที่จะงดงาม ได้เท่า การที่จะได้ มองเห็นคนที่ตัวเองรัก ใน อากัปกิริยา ต่าง ๆ ทั้งหญิงคนรัก ทั้งสายเลือดแห่งรัก ของ ตนเอง
นี่เป็นเรื่องจริง และได้ สอบถาม ไปยังแพทย์ ที่เชี่ยวชาญในด้านสายตา ว่า ชายในเรื่องจริงคนนี้ ไม่ใช่เรื่องของการเกิดปาฏิหาริย์ หากแต่ เป็น เรื่องจริง ตามหลักวิชาการแพทย์ ที่เป็นไปได้ และ ในกรณีเช่นนี้ แพทย์ ในเมืองไทย ก็ ความสามารถ ทำได้ มีนายแพทย์ ท่านหนึ่ง เก่งมากเป็น นายแพทย์ ประจำที่โรงพยาบาล รามาธิบดี ของจริงแท้ แน่นอน
สำหรับ ลีมินฮุงนั้น ก้อนเลือดค่อยๆ คั่งและกดทับประสาทตา ทำให้มีผลกระทบกับสายตา สุดท้ายก็มองไม่เห็น ซึ่งลีมินฮุงก็ได้ไปผ่าตัดที่อเมริกา คาดว่าน่าจะผ่าตัดเอาก้อนเลือดออกไปด้วยแน่
แต่การแพทย์ปัจจุบันนี้มีวิธีการรักษาที่เป็นที่ยอมรับทั้งในยุโรปและอเมริกา ซึ่งวิธีการการรักษานี้บางท่านอาจเคยได้ยินมาบ้างนั่นคือการทำ เสตมเซล (Stem Cell) คือการรักษาโดยเอาเซลล์ซึ่งติดอยู่กับรกเด็กที่คลอดใหม่ไปเพาะเลี้ยงแล้วนำมาซ่อมแซมกับร่างกายของผู้ป่วย ซึ่งวิธีการนี้เป็นเพียงหนทางเดียวเท่านั้นที่จะสามารถฟื้นฟูและพัฒนาเซลล์ ประสาทตาได้การพัฒนาเซลล์ประสารทนี้ ทางการแพทย์เรียกว่า “ NEURAL STEM CELL” คือการเลี้ยงเซลล์เพื่อนำไปพัฒนาและฟื้นฟูเกี่ยวกับประสาทตาโดยตรง ประกอบกับหลักการรับประทานอาหารควบคู่กับการฟื้นฟูสภาพจิตใจด้วยร่วมกัน จะทำให้การซ่อม เซลล์มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรวดเร็วขึ้น แต่จะได้ผลดี 100% นั้นคงเป็นไปไม่ได้ แต่ก็เป็นเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่จะทำการรักษาให้สามารถมองเห็นได้ ค่าใช้จ่ายคิดแล้วประมาณ 1.5 – 2 ล้านบาทไทย เพราะจะต้องทำอย่างน้อยประมาณ 3-4 ครั้ง ค่าใช้จ่ายครั้งละ3-5 แสนบาท
ข้อมูลนี้มาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน Stem Cell ของประเทศไทย ซึ่งประจำอยู่ที่ร่วมฤดีคลินิก คือ นายแพทย์ฉัตรชัย ศรีบัณทิต
ขอขอบพระคุณ ที่คุณ ร้อยตะวันบอกกล่าวเล่าให้ฟังเมื่อปี2007 และให้คำอธิบายรายละเอียดนี้ไว้
สำหรับลีมินฮุง นับได้ว่า เป็นคนมีฐานะดี มีเงินทองมากมาย นี่นับว่าเป็นเรื่องเล็กเพียงแต่ว่า.......... ต้องใช้ระยะเวลา
เวลา แค่ 3 ปี ใน ละคร ลีมินฮุง ยัง ไม่สามารถมองเห็นได้ ส่วนการฟื้นฟูสภาพจิตใจ นั้น ลีมินฮุง มีจุงยูจิน และน่าจะมี มินฮุงน้อย หรือยูจินน้อย หรือ อาจจะมี ทั้งสองคน(หรือมากกว่า) เป็น แรงใจ เป็นกำลังใจ เป็น หยาดน้ำทิพย์ชโลมใจ ให้กับลีมินฮุง อยู่แล้ว ลีมินฮุงอาจมองเห็นโลกที่สวยงามอบอวลด้วยความรัก ด้วยดวงตาทั้ง 2 ข้าง
ลีมินฮุง คง กลับไปรักษาที่อเมริกาต่อ (ในช่วงเวลา 3 ปี หลังผ่าตัด ลีมินฮุง ส่วนใหญ่ แล้ว ก็ อยู่ ที่ อเมริกา อยู่แล้ว) หวังว่า นี่น่าจะเป็น ข่าวที่น่ายินดี ของ แฟนคลับคุณลีมินฮุง คนเล่าเอง ยังดีใจ ปลื้มใจ มาก ๆเลย ยังกับ ตัวเอง เป็น จุงยูจิน รู้สึกเหมือนกับว่า ...คล้ายกับว่า ...จากปี 2002 จนปัจจุบัน ปี 2008 ลี มินฮุง น่าจะ ได้ ดวงตาที่จะทอดทัศนาสรรพสิ่งในโลกนี้ได้แล้ว คือจากในละคร ผ่าตัดแล้ว 3 ปี รวม ปี 2008 นี้ ก็ 9 ปีแล้ว
และในคืนข้างแรมหลังประเพณีลอยกระทง ( ซึ่งที่เกาหลีก็มีประเพณีนี้เช่นกัน) ลี มินฮุง อาจกำลังชี้ชวน จุงยูจิน ให้ชมดาวเหนือ โพราริส ที่บ้านพักชายทะเลที่เกาหลี และในบ้านอาจมีเด็กน้อยทั้งหญิงและชาย 2 คนขึ้นไป นอนหลับอุตุอยู่ในห้องนอน ส่วนพ่อแม่ ก็ ออกมานั่ง รำพึงถึงความหลังกันก็เป็นไปได้ ลีมินฮุง คงขยับเสื้อโค๊ด กางออก โอบ ยูจิน ให้เข้ามาอยู่ในเสื้อตัวเดียวกัน เพราะอากาศคงเย็น และ ลีมินฮุง ก็คง บอกว่า ผมอยากให้อากาศหนาวกว่านี้
Can you see the stars in the shape of Cassiopeia? Can you Polaris beside that? The star of the polar. Can you see the big star in between the Big Dipper and Cassiopeia? Whenever you get lost in the mountain, look for the Polaris first. And then you open your arms and be a compass .... Polaris doesn't move the whole year round. You will be able to find it easily whenever you are. When you are lost, try to find Polaris first. It will be there where you last saw it.
Subscribe to:
Posts (Atom)