WINTER SONATA
EPISODE -16: Shadow of father
แรงปรารถนา
แม้จะได้ความทรงจำกลับคืนมา เจอคนรักชั่วนิรันดร์ แต่แล้ว จุนซาง ก็ยังรู้สึก ว่า หัวใจของตัวเอง ยังไม่เติมเต็ม มีบางสิ่งที่ยังขาดหายไป นั่นคือ ความปรารถนาในสิ่งที่ซุกซ่อนที่อยู่ที่ก้นบึ้งแห่งหัวใจของ จุนซาง ตลอดมาเท่าอายุของตัวเอง เป็นความปรารถนาอันแรงกล้าที่ทำให้จุนซาง ถูกพรหมลิขิตนำพาให้ จุนซาง เดินทางมาจากโซลได้พบกับ ยูจิน และเพื่อนนักเรียน ม.ปลายที่เมือง ชุนชง แม้ปัจจุบันอายุของ จุนซาง 28 ปี แล้ว แรงปรารถนานี้ยังวนเวียนในจิตสำนัก
จุนซาง และ ยูจิน มิได้รู้เลยว่า มีพายุเริ่มตั้งเค้าบนท้องฟ้ามืดทะมึน ก่อนจะกระหน่ำพายุร้ายของความเศร้าโศกมาเยือนอีกครา ให้น้ำตาไหลล้นท่วมท้นหัวใจ ของ จุนซาง และยูจิน แม้จะเป็นปลายหนาวเพื่อย่างเข้าสู่ฤดูไม้ไม้ผลิ แม้ ดอกรัก ดอกนี้ ที่สู้ ยืนหยัดทนความหนาวเหน็บของหิมะจนผ่านพ้นมาได้ แต่ก็ไม่อาจต้านทานแรงพายุนี้ เสียแล้ว
EPISODE -16: Shadow of father
จุนซาง : วันที่ 31 ธันวาคม ใช่มั๊ยจุนซาง : อา …ผม จำได้แล้ว... เรื่องที่ผมอยากจะบอกคุณจุนซาง จ้องมอง ยูจิน ยูจิน ก็จ้องมอง จุนซางจุนซาง ค่อยๆ พูด อย่างช้าๆ : ยูจิน ผมรักคุณ...
คำพูดที่ซ่อนอยู่ในใจมาตั้งแต่ สิบปีก่อน มาตอนนี้ได้เรียบเรียงเป็นถ้อยคำ แล้วเปล่งออกมา เป็นเสียงให้ ยูจิน ได้รับรู้
จุนซาง และยูจิน ไปนั่งที่ม้านั่งริมน้ำ
ยูจิน : ฉันเองก็อยากจะบอกเธอเหมือนกัน ฉันก็เสียดายที่ไม่ได้บอกเธอไป
เธอคงไม่รู้ว่า ฉันอยากบอกเธอ แค่ไหน ว่า ฉันรักเธอ
ยูจิน นึกได้ว่าคนที่สูญเสียความทรงจำไป หากคิดถึงเรื่องใดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ก็จะจำเรื่องที่เหลือได้หมด
จึงถาม จุนซางต่อว่า : อะไรอีก จำอย่างอื่นอีกได้ไหม
จุนซาง พยักหน้า : ผมมีความทรงจำอีกตั้งเยอะแยะที่โรงเรียน ผมเคยโดนอาจารย์ทำโทษ
วันแรกที่ผมย้ายมา ผมลงรถคนละป้ายกับคุณ และไปเที่ยวบนเขากับเพื่อน ๆ
ยูจิน : จำเพื่อนๆ ได้แล้วเหรอ ยงกุ๊ก จินซุก และ แชรีน
จุนซาง พยักหน้า : อึ้ม...ผมเคยทำนิสัยไม่ดี และก็ทำคุณเสียใจ จำเรื่อง Polaris ได้ด้วย
คุณถึงตั้งชื่อบริษัท ว่า Polaris ผมรู้แล้วล่ะ
ตอนนี้ จุนซาง เป็นดาวเหนือ ของ ยูจิน แล้ว จุนซางจะไม่ปล่อยให้ ยูจิน วนเวียนหลงทางอีกต่อไป
ที่ สถานีวิทยุ
ดีเจ บอกซังฮวกว่า : ผมจะทำอะไรดี ผมตื่นเต้นที่ คุณ คัง มุยฮี จะมาที่นี่วันนี้
ซังฮวก : คุณเคยหลงรักเขาจริงๆหรือ
ดีเจ : จริงสิ นึกว่าผมพูดเล่นหรือ เขาคือรักแรก ของผม
ซังฮวก รู้สึกสะเทือนใจ พอดีมีพนักงานสาวมาบอกว่า : คุณ คิม มีแขกมาขอพบค่ะ
เป็น แม่ของ ยูจิน ที่เอาของขวัญวันแต่งงานและเงินที่ซังฮวกเคยให้ไว้เป็นค่าใช้จ่ายแต่งงาน มาคืน ใบหน้าของ ซังฮวก เศร้าหมอง หัวใจก็อ่อนล้า
แม่ของ ยูจิน : ขอโทษนะ ขอโทษ จริงๆนะซังฮวก ฉันก็รักเธอเหมือนลูกชายคนหนึ่งเหมือนกัน
ซังฮวก : ผมไม่เป็นไรครับ ผมอยากจะทำให้ ยูจิน มีความสุข ผมอยากจะดูแลคุณ อยากมีลูกไว้ดูแล ผม กับ ยูจิน ผมอยากให้เขามีความสุข จริงๆ
ยูจิน บอกกับ จุนซางว่า : พรุ่งนี้เรากลับโซล แล้วรีบไปโรงพยาบาลกันเถอะนะ เขาว่าถ้าได้ความทรงจำกลับคืนมา เธอจะหายไวขึ้น งั้นเรารีบกลับไปโรงพยาบาล เธอจะได้จำได้ทุกอย่าง
จุนซาง ยิ้ม : แต่ว่าถ้าเกิดผมดันไปจำ เรื่องร้ายๆ ได้ล่ะ
ยูจิน : ไม่มีเรื่องร้ายๆหรอก จะไม่มีเรื่องร้ายๆ ต่อจากนี้ไป
คัง มุยฮี เดิน เข้าไปในสถานีวิทยุ ที่ทางเดิน ภายในอาคาร แม่ของ ยูจิน และ ซังฮวก เดินออกมาจากห้องห้องหนึ่ง ทำให้ ทั้ง คัง มุยฮี และแม่ของ ยูจิน จะต้องเดินสวนทางกัน ทั้งคู่ ต่างชะงัก เมื่อ มองเห็นซึ่งกันและกัน
แม่ของ ยูจิน เดินไปข้างหน้า คัง มุยฮี ก้มศีรษะ ทักทาย
คัง มุยฮี ทำท่ารับคำทักทาย พอเป็นพิธี
แม่ของ ยูจิน : ไม่ได้พบกันซะนานนะคะ
คัง มุยฮี : ค่ะ ไม่ได้พบกันซะนาน ได้ยินข่าวของ ฮุนโซ ( จุง ซินเจา )
แม่ของ ยูจิน : ใช่แล้วค่ะ ฉันอ่านข่าวคุณในหนังสือพิมพ์ด้วยค่ะ
คัง มุยฮี ก้มหน้าลง ไม่ตอบว่าอะไร
แม่ของ ยูจิน : ซังฮวก แม่ต้องไปก่อนละนะ
ซังฮวก : ครับ กลับ ดี ดี นะครับ
แม่ของ ยูจิน เดินจากไป
คัง มุยฮี ถาม ซังฮวกว่า : นี่คุณ รู้จักเขาด้วยเหรอคะ
ซังฮวก : เขาเป็น คุณแม่ ของเพื่อนผม คุณ รู้จัก ยูจิน ใช่ไหมครับ จุง ยูจิน
คัง มุยฮี ทวนคำ จุง ยูจิน แล้วทำท่านึกออก สีหน้าไม่สู้ดีถามว่า : เขาเป็นแม่ของ จุง ยูจิน เหรอ
ซังฮวก : ครับ
จุนซาง และ ยูจิน นั่งที่ท้ายรถเมล์
ยูจิน พิง ไหล่ซบจุนซางหลับอย่างสบายใจ ยูจิน มั่นใจว่า จะไม่มีความทุกข์ทรมานอีกต่อไปแล้ว เพราะ ยูจิน มีไหล่ของ จุนซาง ให้พักพิงอย่างอุ่นใจแล้ว
จุนซาง ยกมือขึ้นลูบผม ให้ ยูจิน อย่างแสนรัก
ความทรงจำ แวบขึ้นมา จุนซาง นึกภาพ ในสมอง เป็นภาพ อาจารย์ คิม กำลังสอนหนังสือ ในชั้นเรียน
ซังฮวก ที่เดินมาตามทางเดิน
จุนซาง และอาจารย์คิม ยืนอยูด้วยกัน
และภาพที่ จุนซาง วิ่งออกมาจากที่แห่งหนึ่ง
จุนซาง รู้สึกสับสนกับความทรงจำที่ไม่มีที่มานี้ จุนซาง พยามยามสลัดทิ้งไป
ที่หน้าบ้านของ ยูจิน
จุนซาง : ผมจำได้ คุณให้ถุงมือผม ที่ที่นี่ยังไงล่ะ
ยูจิน : ใช่แล้วละ และเธอก็ขึ้นไปบนบ้านด้วย
จุนซาง แปลกใจ : งั้นเหรอ
ยูจิน พยักหน้าจะเดิน ขึ้นบันไดไป
จุนซาง : เหรอ นั่นสินะ แต่ว่าทำไม จู่ จู่ ผมถึงวิ่งหนีไปล่ะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ
ยูจิน สั่นศีรษะ : เปล่านี่ ฉันกำลังเตรียมตั้งโต๊ะ จู่ จู่ เธอก็หายไป
นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นเธอ ทำไมเธอถึงหนีไปล่ะ
จุนซาง ทำท่า ครุ่นคิด และไม่สามารถขจัดความไม่สบายใจ นี้ออกไปเสียได้ จุนซางไม่สามารถปะติดปะต่อภาพ ที่แวบขึ้นมาในความทรงจำได้
ยูจิน : เธอจำไม่ได้ใช่มั๊ยล่ะ
จุนซาง ยิ้ม ไม่ตอบว่าอะไร
แม่ของ ยูจิน ที่กลับมาจากโซล เพิ่งมาถึง
ยูจิน ผละจาก จุนซาง ไปหาแม่ บอกแม่ว่า : หนูขอมาค้างคืนด้วยน่ะ
จุนซาง เดินเข้ามาคำนับทักทาย : สวัสดีครับ สบายดีเหรอครับ
แม่ ของ ยูจิน : สบายดี คุณหายดีแล้วเหรอ
จุนซาง : ครับ ขอบคุณมากครับ ข้างนอกมันหนาวนะครับ
หันไปทางยูจิน :พาคุณแม่เข้าบ้านเถอะ พรุ่งนี้เจอกัน
ยูจิน ตอบ จุนซางว่า : จ้ะ แล้วพูดกับแม่ว่า : ไปเถอะค่ะ
ยูจิน ช่วยแม่นั่งพับเสื้อผ้าภายในห้อง
แม่ยูจิน ถามว่ : จุนซางเขาจำอะไรได้มากขึ้นรึยังล่ะ
ยูจิน: จุนซาง จำได้เกือบหมดแล้ว ยกเว้นบางเรื่องค่ะ เขาจำหนูกับเพื่อน ๆ ได้แล้ว
แม่ของ ยูจิน : อืม.. ค่อย ยังชั่ว แต่เขาก็คงจะลำบาก มันยากทั้ง สองทางนั่นแหละ ยากที่ยังจำอะไรไม่ได้มาก และตอนที่จำได้มากไป
ยูจิน เงยหน้า มองแม่
ยังจำ คำพูดของ ยูจิน ที่โรงพยาบาล ว่า : หนูทิ้ง จุนซางเขาไปไม่ได้ค่ะ คือ หนูทิ้ง มินฮุง ไปไม่ได้หรอกค่ะ หนูรอเขามาตั้ง สิบปีนะคะ
คัง มุยฮี ไม่อาจนิ่งเฉย กับเรื่องนี้ได้ หยิบโทรศัพท์ โทร ไปหา จุนซาง ทันที : ฮัลโหล ลูกอยู่ที่ไหนจ๊ะ
จุนซาง : ผมกลับมาที่ชุนชงครับ
คัง มุยฮี เป็นห่วง จุนซาง : ลูก ยังไม่หายดี แล้วไปที่นั่นทำไมล่ะลูก
จุนซาง : ผมกลับมาหาของน่ะครับ แม่ มีอะไรเหรอครับ
คัง มุยฮี : ก็แค่อยากจะรู้ว่า ลูกเป็นไง
จุนซาง : ผมสบายดีครับแม่ อ้อ พรุ่งนี้แม่ต้องบินไปญี่ปุ่นใช่มั๊ยครับ ผมจะไปเจอแม่ก่อนขึ้นเครื่องนะ
คัง มุยฮี : งั้นก็ดีจ้ะ พรุ่งนี้แม่มีเรื่องจะคุยกับลูกด้วยจ้ะ
คัง มุยฮี วางโทรศัพท์ ถอนหายใจยาว ถ้าตอนนี้ไม่มาพบกัน ไม่รู้ว่าต่อไป จะเกิดเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจมากกว่านี้อีกหรือไม่
จุนซาง ยืนรอ ยูจิน ที่ริมถนน ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา แล้วก็ ยิ้มขำ ที่ ยูจิน จนป่านนี้ ยังรักษาฉายาเดิม คือ “ เจ้าหญิงสายเสมอ “ ไว้อย่างคงทน หันไปดูมุมตึก ก็เห็น ยูจิน วิ่งเข้ามาหา อย่างรีบร้อน จุนซาง ยกสองมือ เบรครับตัว ยูจิน ไม่ให้ ถลำไปข้างหน้า เพราะแรงวิ่งที่โถมตัวเข้ามา
ยูจิน หอบ อุ๊ย ...รอนานหรือเปล่า
จุนซาง ลากเสียงยาว … นาน....สิ.. แล้วทำเสียงเข้ม : จุง ยูจิน เธอน่ะไปโรงเรียนสายประจำ นิสัยเสียไม่เลิก
ยูจิน : อะไรนะ
คัง มุยฮี เดินออกจาก ลอบบี้ของโรงแรม
เลขา : เราคงเลื่อนอีกไม่ได้แล้วครับ
คัง มุยฮี : งั้นเหรอ งั้นตามกำหนดเดิมก็แล้วกันนะ แล้ว จุนซาง โทร มาหรือยัง
เลขา : ยังเลยครับ อ้อ มาโน่นแล้วครับ
จุนซาง และ ยูจิน วิ่งเข้ามาหา คัง มุยฮี
จุนซาง : พอดีรถมันติดน่ะครับ กระเป๋า อยู่ไหน ล่ะครับ
คัง มุยฮี ทำท่าทาง ว่า อยู่ ที่โน่นไง จุนซาง ผละ ไปที่กระเป๋า เดินทาง
ยูจิน ตอบคำว่า : สบายดีเหรอคะ
คัง มุยฮี : หน้า เธอคล้ายคุณพ่อมากเลย
ยูจิน แปลกใจ : คะ
คัง มุยฮี เปลี่ยน คำพูดใหม่ว่า : เอ้อ ฉันหมายถึง เธอคงหน้าตาเหมือนคุณพ่อ ละสินะ
ยูจิน : ค่ะ ใคร ใคร ก็บอกว่า หนูหน้าเหมือน คุณพ่อ ค่ะ
คัง มุยฮี : จ้ะไปสิ
จุนซาง ออกเดิน คัง มุยฮี เดินตามไป โดยไม่สนใจ ยูจิน อีก ยูจิน เอี้ยวตัวมอง จุนซาง และแม่ อย่าง งง แล้วก็เดินตามออกมาข้างนอก
จุนซาง เอากระเป๋าเดินทางใส่ท้ายรถ แล้วปิดฝากระโปรงท้ายรถ
คัง มุยฮี : พอไปถึงแล้ว แม่จะโทรมา แล้ว คัง มุยฮี ก็เปิดประตูรถ จุนซาง ท้วง แม่ขึ้นว่า : แม่ครับ ไหนแม่ บอกว่ามีอะไรจะพูดกับผมไงครับ
คัง มุยฮี หันไปมอง ยูจิน แล้วหันกลับมาที่ จุนซาง : ไว้กลับมาค่อยคุยกัน แล้วหันกลับจะขึ้นรถ
ยูจิน : โชคดีนะคะ
คัง มุยฮี ชะงักนิดหนึ่ง แต่ทำท่าไม่สนใจ ยูจิน ก้าวขึ้นนั่งบนรถ รถแล่นออกไป
ยูจิน รู้สึกแปลกใจ กับ ท่าทาง ที่เปลี่ยนไปของ คัง มุยฮี ที่ทำเหมือน ไม่มี ยูจิน ยืนอยู่ตรงนั้น ขึ้นรถไปท่าทางเย็นชา จุนซาง รู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ แต่ก็ยิ้ม ให้ ยูจิน
คุณคิม และ จุนซาง นั่งปรึกษางานกันที่โต๊ะวางแผนงาน
คุณคิม : เอ้อ แล้วเรื่องโครงการใหม่ เราต้องหารือกันอีกหน่อยนะครับ แต่คิดว่า คงจะเสร็จทันเวลาน่ะครับ
จุนซาง : คุณช่วยดูแลให้ด้วยก็แล้วกัน
คุณคิม ลุกขึ้น : ครับไม่มีปัญหาหรอก อ้อ เดี๋ยวนะครับ
จุน ซาง : หือ
คุณคิม เดินไปที่โต๊ะทำงานของ มินฮุง มีจิ๊กซอว์ รูปเรือ ที่ถูกรื้ออก และกำลังจัดวางใหม่
คุณคิม หันไปทาง จุนซาง : จิ๊กซอว์นี่ คุณรื้อออกมาเพื่อจะทำใหม่ หรือไงนี่ เหอะ
จุนซาง ยิ้ม เป็นคำตอบ แล้ว ก้มหน้าอ่านเอกสารในมือ ที่โต๊ะ ตัวเดิม
คุณคิม ร้องเฮ้อ : ผมละเหนื่อยใจกับคุณจริงๆเลย ผมไปล่ะ
คุณคิม เดินกลับเอาแฟ้มงานมาวางบนโต๊ะ ที่ จุนซาง นั่งอยู่
จุนซาง : เอ้อ ว่าแต่ว่า
คุณคิม : อะไรนะครับ
จุนซาง : พรุ่งนี้เราต้องไปที่ สกีรีสอร์ต ใช่มั๊ยครับ
คุณคิม : อาจจะไม่ต้องนะ
จุนซาง : งั้นก็ดี พรุ่งนี้เย็นไปทานข้าวเย็นที่บ้านผมนะ
คุณคิม : อ๋อ ฉลองขึ้นบ้านใหม่ใช่มั๊ยล่ะ
จุนซาง ยิ้ม เงยหน้าขึ้นตอบว่า : ไม่ใช่หรอก ก็แค่อยากกินข้าวด้วย
คุณคิม : ก็ไม่เลวนะ ปาร์ตี้แสนอบอุ่นที่บ้านใหม่ ทีนี้ก็เหลือแค่งานแต่ง จะเปลี่ยนแผนซะใหม่ก็ได้นะ อ๋อ นี่ถือว่าเป็นการซ้อมล่ะสินะ ไม่เลวนะ
คุณคิม ตบไหล่ จุนซาง ทีหนึ่งแล้วก็เดินออกจากห้องไป
จุนซาง เลือกหยิบชิ้นจิ๊กซอว์ วางเทียบลงไปลงบนแผ่นรอง ที่กำลังวางจัดภาพทีละชิ้น
หลังจากฟื้นความทรงจำกลับมาได้แล้ว
จุนซางนำภาพแล้วภาพเล่ามาปะติดปะต่อกันอีก จุนซางก็อยากจะให้ความคิดที่ยุ่งเหยิงในสมอง กระจายออกไปให้หมด เพราะในสมองยังคงมีสิ่งต่างๆผุดขึ้นมาเรื่องแล้วเรื่องเล่า
จุนซาง วางชิ้นส่วน จิ๊กซอว์ลงพื้นโต๊ะ
ยูจิน เรียกซ้ำ : จุนซาง เป็นอะไรไป นี่ขนาดเรียก เธอยังไม่ได้ยินเลย
จุนซาง ในมือ ยังถือ ผัก ( กระหล่ำปลี มั้งคะ) ปฎิเสธ ยูจิน ว่าเปล่า วางผักลงในรถเข็น
ยูจิน เรียก : จุนซาง โธ่..
เมื่อมาถึงบ้าน วางถุงที่ชอปปิ้งมา ลงบนโต๊ะ จุนซางทำท่าจะรื้อของออกจากถุง
ยูจิน บอกว่า : เดี๋ยว ฉันทำเองน่ะ
จุนซาง : ช่วยกันทำดีกว่า
ทั้งสองคน ช่วยกันรื้อของที่ซื้อมา
ยูจิน ได้ยินไม่ชัด ถามจุนซางว่า : อะไรนะ
จุนซาง พูดซ้ำ : เหมือนเราแต่งกันแล้วเลย ได้มาอยู่กับคุณ ผมรู้สึกว่า เราน่าจะชวนเพื่อนๆ มาโชว์บ้านใหม่ของเรานะ
จุนซาง รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ไปซื้อของกับ ยูจิน จัดของที่ไปซื้อมา เหมือนแต่งงานกันแล้ว ให้ความรู้สึก เหมือนกับจะจัดงานเลี้ยงเพื่อนสามสี่คนที่มาร่วมงานแต่งงาน เป็นบรรยากาศเลี้ยงฉลอง อวยพรอะไรแบบนั้น
ยูจิน ไม่ตอบคำ กลับพูดถึงแต่เรื่อง ของที่ซื้อมา : แล้วคุณจะกินหมดจริงๆน่ะหรือ เดี๋ยวก็เน่า และสุดท้ายก็ต้องโยนทิ้ง ถ้าทิ้งจนเน่า ฉันจะทิ้งคุณให้อยู่คนเดียว
จุนซาง : ซื้อไว้สำหรับพรุ่งนี้
ยูจิน ชักจะเป็นแม่บ้านเต็มตัวเสียแล้ว : พรุ่งนี้เราจะกินกันหมดนี่นะหรือ
จุนซาง : อืม..ใช่
ยูจิน หัวเราะ โธ่
จุนซาง : ก็พรุ่งนี้เป็นวันเกิดผม
ยูจิน ชะงัก เงยหน้ามอง จุนซาง ที่หยิบของออกจากถุงทีละอย่างๆ ยูจิน ถามซ้ำว่า อะไรนะ
จุนซาง : ก็พรุ่งนี้เป็นวันเกิดผม
ยูจิน คราง : จุนซาง
จุนซาง : ทำไมต้องตกใจด้วย พรุ่งนี้มากินข้าวด้วยกัน ผมไม่ได้ฉลองวันเกิดด้วยกันตั้ง สิบปี งั้นพรุ่งนี้เรามาฉลองกันให้เต็มที่เลย ผมเชิญคุณ คิมแล้ว คุณต้องช่วยผมทำกับข้าวนะ แล้ว จุนซาง ก็ เดินออกจากโต๊ะไป
ยูจิน มอง จุนซางที่ยิ้มอย่างเหงาๆ ความเศร้าที่ยากจะเข้าใจ ผ่านเข้ามาในหัวใจของ ยูจิน
จุนซาง เดินไปเปิดวิทยุ เสียงเพลงคลาสสิกดังแว่วขึ้นมา จุนซาง เดินกลับมาหา ยูจิน: ซังฮวก เลือกเพลงได้เพราะจริงๆ ผมเคยเปิดเจอโดยบังเอิญ ก็เลยเป็นแฟนประจำ
ยูจิน มอง จุนซาง อย่างเข้าใจความรู้สึก รู้ว่า จุนซางอยากขอโทษเพื่อนๆ โดยเฉพาะ ซังฮวก
จุนซาง เข้ามาช่วย ยูจิน จัดของที่ซื้อมาต่อ
ซังฮวก เดินที่ถนน
ยงกุ๊ก เห็น ซังฮวก ก็แปลกใจเข้าไปทัก : นี่ซังฮวก นายมาทำอะไรที่นี่
ซังฮวก และ ยงกุ๊ก ไปนั่งดื่มเบียร์
ซังฮวก เงยหน้ามอง ยงกุ๊ก พยักหน้าน้อยๆ
ยงกุ๊ก : ทุกวันนี้นายกินอิ่ม นอนหลับ และก็ ไม่ได้โดดงานใช่ไหม
ซังฮวก ยิ้มให้ยงกุ๊ก : ฉันก็ไม่อยากเชื่อว่า ยังอยู่ได้ อาจเป็นเพราะว่าฉันไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
แต่ว่า ฉันคิดถึงเขานะ ฉันคิดถึงเขาจริงๆ ฉันเห็นคนที่คล้าย ยูจิน ก็เลยวิ่งตามตลกมั๊ย
ยูจิน น่ะ เคยคิดว่า จุนซางเดินอยู่บนถนน ก็เลยวิ่งตาม ก็คงรู้สึกแบบนี้ซินะ แต่เธอคงเจ็บปวดกว่าฉันหลายเท่านักใช่หรือเปล่า
แต่ฉันน่ะ มีตั้งหลายอย่าง ที่อยากทำให้เขา แต่ไม่มีโอกาส
หยาดน้ำตาของ ซังฮวก ไหลรินลงมา
ยงกุ๊ก ที่ทั้งยิ้มให้ ซังฮวก หัวเราะให้ซังฮวก พอมาถึงตอนที่เห็นน้ำตา ของเพื่อน ยงกุ๊ก ก็หน้าเศร้าไปด้วยปลอบเพื่อนว่า : เวลาจะช่วยรักษานายเอง
ซังฮวก : นานแค่ไหน ฉันต้องรออีกนานแค่ไหนล่ะ จนเท่ากับเวลาที่ฉันอยู่กับ ยูจิน น่ะเหรอ ฉันถึงลืมเขาได้ ฉันพูดไปก็เหมือนคนโง่ แต่ฉัน อิจฉา อิจฉา จุนซาง จริงๆ
ยูจิน และจินซุก นั่งทานอาหารด้วยกัน ยูจิน เป็นห่วง จินซุก ที่กลับบ้านดึกตลอด จึงถามว่างาน ยุ่งมากหรือ
จินซุก เล่าว่า แชรีน ทำงาน ยังกับคนบ้า ไม่มีวันไหน ที่แชรีน จะไม่ตวาดลูกน้อง พวกลูกน้องเข้าหน้า แชรีน ไม่ติด
จินซุก ต่อว่า ยูจิน ว่า : เราต้องทำตัวเหมือนคนอื่นกันตั้งแต่เมื่อไร ฉันรู้ว่า คราวที่แล้ว ยงกุ๊ก พูดแรงไปหน่อย แต่ฉันก็ทนไม่ได้แล้วนะฉันไม่ชอบให้เธอและ จุนซาง ทำตัวเหมือนพวกเธอทำอะไรผิด
ยูจิน บอกว่า จุนซาง จำ จินซุก ได้แล้ว พอจุนซาง เจอ สถานการณ์ที่คล้ายๆแบบเดิม หรือเห็นอะไรที่ไปกระตุ้นความทรงจำของ จุนซาง ความทรงจำก็ค่อยๆ คืนกลับมา ทีละนิด และจุนซาง ก็จำ เพื่อนๆ ได้แล้ว
จินซุก ตื่นเต้น เสนอชวน ให้ พวกเพื่อนๆมารวมกลุ่มกัน ถึงจะทะเลาะกันบ้าง แต่ก็น่าจะนัดมาเจอกัน จินซุก และยงกุ๊ก จะนัดสถานที่และเวลาให้เอง
ยูจิน ปฎิเสธว่า ซังฮวก และ แชรีน คงยังทำใจลำบาก ไม่อยากไปตอกย้ำพวกเขา ให้เวลาผ่านไปนานกว่านี้หน่อย
แล้วถาม จินซุก ต่อว่า จินซุก อยากไปบ้านจุนซาง มั๊ย วันนี้เป็นวันเกิดของ จุนซาง
จินซุก เลี่ยงออกมา พูดโทรศัพท์ จินซุก บอกยงกุ๊กว่า : วันนี้เป็นวันเกิด ของ จุนซาง ฉันบอก ยูจินว่า จะชวนเพื่อนๆ ไปด้วยกัน
ยงกุ๊ก อยากไปแต่ไม่กล้าเพราะนึกถึงคราวที่พูดรุนแรงกับจุนซางไว้ รวมทั้งไม่กล้าโทร บอก ซังฮวก จินซุก บอกว่า พวกเราจะอยู่กันแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ยงกุ๊ก จึงตกลงใจไป
เมื่อ จินซุก ปิด โทรศัพท์และหันกลับจะไปทำงานต่อ ก็พบว่า แชรีน ยืนกอดอก ฟังเธอพูดโทรศัพท์อยู่ แชรีน บอกให้ จินซุก ไปซะ ก่อนที่ แชรีน จะเปลี่ยนใจ จินซุก อ้าปากจะพูดบางสิ่งบางอย่าง แต่เมื่อเห็นสีหน้าของ แชรีน ก็เปลี่ยนใจ
แชรีน ยืนหน้าเศร้า ก่อนที่จะตัดใจ หันกลับไปตรวจเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ต่อ
ยูจิน จัดเตรียมอาหารมากมาย จุนซาง เองก็ชักไม่แน่ใจ ถาม ยูจิน ว่า : คุณ ว่าเยอะไปรึเปล่า
ยูจิน : เอ้อ..อะ ..จริงสิ จินซุก ก็จะมานะ
จุนซาง : จินซุก เหรอ
ยูจิน : ใช่ แต่คนอื่นๆเขาไม่ว่างกันน่ะ จินซุก ก็เลย จะมาเป็นตัวแทนของเพื่อนๆ แต่ฉันว่า ( ยูจิน ชัก ไม่แน่ใจเหมือนกัน ) เราเตรียมเยอะมั้ง ว่ามั๊ย
จุนซาง เงยหน้ามอง ยูจิน : ถึงไม่มีใครมา ผมก็กินหมดอยู่แล้วละ ไม่ต้องห่วงหรอก
ยูจิน ยิ้มสดใสให้ จุนซาง : จุนซาง สุขสันต์วันเกิด นะ
จุนซาง ยิ้มตอบ : ขอบคุณ นะ
ประตูเปิดออก ซังฮวก ถือช่อดอกไม้ ยืนอยู่ ยูจิน ที่ยืนเยื้องอยู่กับจุนซาง เอ่ยทัก : ซังฮวก
ซังฮวก ยิ้มให้ : สบายดีเหรอ แล้ว เปลี่ยนสายตาไปที่ จุนซาง : สุขสันต์วันเกิดนะ จุนซาง
ซังฮวก ยื่นช่อ ดอกไม้ให้ จุนซาง จุนซางรับไว้ และเชื้อเชิญว่า : เข้ามาสิ
เมื่อเข้ามาภายในห้องรับแขก จุนซาง ถามว่า : กาแฟซักถ้วยมั๊ย เดี๋ยวไปชงมาให้
ยูจิน : ฉันทำเอง
จุนซาง : คุณอยู่นี่แหละ ผมไปชงเอง
ซังฮวก นั่งลงที่โซฟา ยูจิน มานั่งข้างๆ ยูจิน หันมามองซังฮวก แต่เหมือนจะพูดอะไรไม่ออก
ซังฮวก มองดู ยูจินอย่างสงบ สีหน้าของซังฮวก ในขณะนี้ เหมือน ซังอวก ปกติดี ทัก ยูจิน ว่า : เธอดูสดชื่นดี
ยูจิน : เป็นยังไงบ้าง ได้ข่าวว่าทำรายการใหม่ด้วย
ซังฮวก : รู้ได้ไง
ยูจิน ; จุนซาง ชอบรายการของเธอมากเลย
ซังฮวก พยายามยิ้ม: เหรอ อ้อ ฉันเริ่มทำรายการใหม่ จำคุณ ยู ได้ไหม ฉันทำงานกับเขาด้วยล่ะ
ยูจิน : หน้าเศร้า เมื่อ พิศ ดู ซังฮวก อย่างจริงจัง : เธอ ดูผอมไปนะ
ซังฮวก พยายามทำร่าเริง : มันก็ แหง๋ อยู่แล้วละ สาวๆ ที่ทำงานบอกว่าฉันหล่อขึ้น ซังฮวกยิ้มให้ ยูจิน
ยูจิน : คงไม่ได้กินอะไร ดีๆ คงกินแต่บะหมี่ถ้วยสิ ใช่มัยล่ะ
ซังฮวก ยิ้มให้อีก : ใช่แล้ว ยูจิน เจอฉันทีไร เธอเป็นต้องแขวะ ฉันทุกที
แล้ว ต่างคนต่างก็หลบสายตากัน
ซังฮวก : ยูจิน เธอมีความสุขดีใช่มั๊ย
ยูจิน ได้ แต่ มองหน้า ซังฮวก
ซังฮวก หยุดเดิน และพูดกับ จุนซางว่า : ฉันไม่เคยเห็นเขามีความสุขขนาดนี้มาก่อนเลย ฉันดีใจจริงๆ ดูแลเขาให้ ดี ดี ด้วย อย่าทำให้เขาร้องไห้ อย่าทำให้เขาเสียใจ แล้ว ก็ แฮปปี้เบิร์ธเดย์ นะ จุนซาง
จุนซาง พยักหน้ารับคำ ใบหน้าขรึม : ขอบคุณนะซังฮวก
ซังฮวก พยักหน้า ฉันไปละ ซังฮวก ก้าวเดิน แล้วเหมือนนึกขึ้นได้ จึงหันมาพูดต่อ : เออจริงสิ เราได้สัมภาษณ์ คุณแม่นายออกทางวิทยุด้วย ท่านเป็นคนที่น่าทึ่งมาก.
จุนซาง ยิ้มให้ : จริงเหรอ
ซังฮวก : ท่านเรียน ม.ปลาย กับพ่อฉันด้วย นายว่ามันบังเอิญมั๊ย เหมือนนายกับฉันเลย ฉันไปนะ
จุนซาง ยืนมอง ซังฮวก ที่หันหลังจากไป จึงกลับเข้าบ้าน
ซังฮวก กลับมานั่ง อย่างเดียวดายที่สถานีวิทยุ
ยงกุ๊ก และจินซุก ไปร่วมงานที่บ้าน จุนซาง ยูจิน ดีใจมาก ที่ท่าทางของ ยงกํก และ จินซุก หัวเราะร่าเริง จุนซาง จับมือ ยงกุ๊ก เขย่าอย่างดีใจ : ขอบคุณมากนะ
ยงกุ๊ก : ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรหรอก
แชรีน นั่งอยู่ที่โซฟา ภายในร้าน คนเดียวเหมือน ซังฮวก อย่างเศร้าและว้าเหว่ ในห้องที่มืดสลัว
ทุกคนนั่งทานอาหารร่วมโต๊ะ จุนซาง เป่า เทียนที่เค็กวันเกิดอย่างมีความสุข
ยงกุ๊ก : อะฮ้า สุขสันต์วันเกิดนะ ทุกคน ยกแก้วไวน์ขึ้น ชนแก้วกัน เสียง จุนซาง : ดื่มครับดื่ม
แล้วงานเลี้ยงก็เลิกรา ทุกคนพากันทยอยออกมาจากบ้าน
ยงกุ๊ก : ฉันคงต้องขอตัวกลับก่อน
ตามมาด้วยเสียงคนอื่น : ขอบคุณครับ สำหรับดินเนอร์
จุนซาง : ขอบคุณมากครับ
เสียงร่ำลา ตามมา : ยูจิน ฉันไปก่อนนะ , ขอบคุณมาก ๆเลย ไปก่อนนะ ,ขอบคุณมาก, ยูจิน ไปก่อนนะ, โชคดีนะ ยูจิน , โชคดีจ้ะ, ไปกันเองน่ะเหรอ
จนเหลือแต่ จุนซาง กับ ยูจิน
ยูจิน : ฉันไม่ได้หาให้ซะหน่อย พวกเขามาธอกันเอง
จุนซาง : งั้นเหรอ
ยูจิน : ตอนนี้ เหลืออีกแค่คนเดียว เพื่อนอีกคนเธอต้องไปหาเขา ไปหา แชรีน ซะสิ บางทีเขาอาจกำลังเป็นห่วง อาจกำลังห่วงสุขภาพของเธอ เขาอาจจะอยากฉลองกับเธอ
จุนซาง : งั้นเหรอ ก็ได้
ยูจิน : โชคดีนะ
ยูจิน เดินกลับไป เป็นคนสุดท้าย เดินไปได้ 3-4 ก้าว ก็ หันมาโบกมือ อำลา และให้กำลังใจ จุนซาง ของ เธอ
แชรีน ผุดลุกขึ้น : มินฮุง
จุนซาง : นึกว่าคุณไม่อยู่ซะแล้ว แต่คุณก็อยู่
จุนซาง เดินเข้าไปหา แชรีน
แชรีน : กลับไปเป่าเค๊กวันเกิดกับ ยูจิน ซะเถอะ คุณมาที่นี่ทำไมน่ะ
แชรีน เดินมาหยุดที่ จุนซาง
จุนซาง : ผมทำผิดไว้กับคุณมากมาย ตอน เป็น จุนซาง และเป็น มินฮุง
แชรีน : งั้นเหรอ จะมาขอโทษฉันเหรอ
จุนซาง : ใช่ ผมขอโทษ
แชรีน : ถ้าคุณเสียใจ ก็กลับมาหาฉันสิ ถ้าคุณเสียใจกลับมารักฉันสิ มินฮุง ฉันลืมเรื่อง คัง จุนซาง ไปแล้ว แต่ฉันไม่ได้ลืมเรื่อง ลี มินฮุง คัง จุนซาง ชอบ จุง ยูจิน ก็จริง แต่ ลี มินฮุง ไม่ได้ชอบ ลี มินฮุง เขาชอบฉันนะ
จุนซาง ใบหน้าเศร้า เสียใจกับแชรีน เงยหน้ามอง แชรีน : แชรีน
จุนซาง แกะ มือ ที่แชรีน โอบกอด จุนซางอยู่ ค่อยๆผลัก แชรีน ออกห่างตัว สองแขนจับแขน แชรีนไว้ : คุณ ก็รู้ว่า มันเป็นไปไม่ได้ อย่าทำแบบนี้เลย
แชรีน สะบัดตัวออกจาก มือของ จุนซาง : งั้น คุณมาที่นืทำไม แล้วคุณ ถ่อมาหาฉันถึงที่นี่ทำไม ยูจิน บอกให้คุณมาเหรอ เขาบอกให้คุณสงสารฉันใช่ไหม
แล้วแชรีน ก็ถอยไปไปนั่งลงที่โซฟา
จุนซาง : ผมมาเพื่อตามหาเพื่อน เพื่อนผมที่ชื่อ โอ แชรีน
แชรีน เงยหน้ามอง จุนซาง : เพื่อนเหรอ ฉันไม่ต้องการเพื่อนที่ชื่อ คัง จุนซาง คนที่ฉันต้องการเขาชื่อ ลี มินฮุง
จุนซาง : ผมคงเร่งรัดคุณมากไป ขอโทษนะ แชรีน
จุนซาง หันกลับจะเดินออกไป
แชรีน : ฉันจะทำให้คุณกลับมา
จุนซาง ชะงัก
แชรีน : ฉันจะรอให้คุณกลับมาหาฉันให้ได้
แชรีน พูดอย่างมุ่งมั่น
จุนซาง : อร่อยมากเลย
จุนซาง : ผมมาคิด ๆ ดูแล้วนะ ถ้าผมไม่ถูกส่ง มาที่โซล เมื่อ สิบ ปีก่อน แล้วไปอยู่อเมริกา ผมช่วยให้ทุกคนไม่ต้องเจ็บปวด แต่พอมาคิดดูอีกที ดีแล้วที่ผมได้อยู่ที่ โซล ไม่งั้นผมคงไม่ได้เจอคุณ
ยูจิน ยิ้มให้
จุนซาง : แต่ไม่รู้ ผมไม่รู้ผมไปชุนชงทำไม แต่ผมก็ได้พบคุณ
ยูจิน : จำไม่ได้เหรอ คุณย้ายไปชุนชงทำไม
จุนซาง : ผมจำไม่ได้
ยูจิน : แต่ฉันจำได้
จุนซาง มองหน้า ยูจิน
ยูจิน : เธอบอกว่ามาตามหาคุณพ่อ
จุนซาง งง : หาพ่อ งั้นเหรอ
ยูจิน พยักหน้า
จุนซาง : นั่นสินะ ผมสงสัยเรื่องพ่อผม
จุนซาง ทวนคำ : พ่อผม พ่อผม ฟังดูคุ้น ๆ นะ
จุนซาง ก้มลงทาน โจ๊ก ต่อ
ยูจิน : แล้วคุณแม่เธอ ไม่เคยบอกเรื่องคุณพ่อเธอเลยเหรอ หือ
จุนซาง ทำท่าคิด : รู้สึกท่านจะตายไปแล้ว ผมก็เลยไม่อยากถาม
ยูจิน : ท่านเสียไปแล้วเหรอ
แล้ว ยูจิน ก็ตัดบท เพื่อ ดึงความเศร้าของ จุนซาง ให้ออกไป : กินอีกหน่อยสิ เธอกินให้หมดก่อนฉันถึงจะไปน่ะ
จุนซาง : ก็ได้
จุนซาง กินอาหารต่อ แล้วชมว่า : อร่อยมากเลย
จุนซาง นั่งกอดอกครุ่นคิด อยู่ที่โซฟา ถึงคำพูดของ ยูจิน ว่า : ก็เธอบอกว่ามาตามหาคุณพ่อ
คำพูด ของ แม่ ว่า : เขาเป็นคนที่แม่เคยรักมาก แต่เขาก็ทิ้งแม่ไป และก็ลืมแม่ แล้วเขาก็ตาย เขาตายแล้ว เขาตายแล้ว
จุนซาง นั่งหน้าเศร้า
ซังฮวก : ผมดูแลตัวเองได้ แม่ยิ่งทำให้ผมหนักใจนะครับแม่
แต่แม่ก็ไม่ยอมเลิกรา ซังฮวก รำคาญ หนีขึ้นห้องตัวเอง อาจารย์คิม เข้ามาพอดี เลยขัดจังหวะไม่ให้แม่ตามขึ้นไปเซ้าซี้ ซังฮวก ต่อ บอกว่า ภรรยา ทำเกินไป เหมือนไม่รู้จักนิสัยของ ซังฮวก : เขาต้องเป็นคนตัดสินใจเอง ไม่มีประโยชน์อะไร แล้วอาจารย์คิม ก็ตามไปเพื่อจะปลอบโยน ซังฮวก ที่ห้อง
อาจารย์คิม ไหวตัว ทันที ซังฮวก พูดต่อ : เรานึกว่าเขาตายแล้ว แต่เขาแค่เสียความทรงจำ จุนซาง และยูจิน..
อาจารย์ คิม ขัดขึ้นว่า : คัง จุนซาง ยังไม่ตายงั้นเหรอ ลี มินฮุง คนที่พ่อเจอที่สกีรีสอร์ต
ซังฮวก : ครับ เขาก็คือ คัง จุนซาง และพ่อรู้มั๊ยครับ ว่า เขาเป็นลูก ของ คัง มุยฮี
อาจารย์คิม ตกใจกับเรื่องที่ได้ยิน ส่งเสียงในลำคอ : หึม..
ซังฮวก : เมื่อ 2-3 วันก่อน ผมยังคุยกับ จุนซาง ผมว่ามันช่างบังเอิญจริงๆ
อาจารย์ คิม กลืนน้ำลายลงคอ ครุ่นคิดด้วยท่าทางไม่สบายใจอย่างยิ่ง ซังฮวก สังเกตเห็น จึงถามขึ้นว่า : พ่อครับ พ่อไม่เป็นไรนะครับ
อาจารย์คิม รู้สึกตัว : เอ้อ..ไม่เป็นไร ลูกคงเหนื่อยแล้ว เข้านอนเสียเถอะ
อาจารย์คิม เหมือนหัวใจจะหยุดเต้น ค่อยๆ ลุกขึ้น เหมือนคนไร้เรี่ยวแรง เดินออกไปจากห้อง
วันรุ่งขึ้น อาจารย์คิม ไปหา คัง มุยฮี ที่บริษัทจัดการแสดงของ คัง มุยฮี
เจ้าหน้าที่บอกว่า ยังอยู่ที่ญี่ปุ่น จะกลับเกาหลี วันนะรืนนี้ อาจารย์คิม บอกเจ้าหน้าที่ ว่า : ผมมีเรื่องด่วน คุณมีวิธีจะติดต่อกับเขาได้ไหมล่ะ
ที่ญี่ปุ่น
คัง มุยฮี กำลังเตรียมการแสดงกับทีมงาน เลขา ก็ ยื่นโทรศัพท์ ให้ แจ้งว่า : คุณครับโทรศัพท์จากเกาหลีครับ ไม่ทราบว่าใครครับ เขาบอกว่ามีเรื่องด่วน คัง มุยฮี จึงขอโทษ ทีมงาน ถือโทรศัพท์ ลุกขึ้นจากที่นั่ง
คัง มุยฮี : ฮัลโหล
พอรู้ว่าเป็นใครโทรมา : มีอะไรถึงโทรมาหาฉันถึงที่นี่
อาจารย์คิม : ลูกชายเธอ ก็คือ คัง จุนซาง ทำไมต้องปิดฉันด้วย
คุง มุยฮี ยังไม่ทันตั้งตัว ก็อีกอัก : ไม่ จำเป็นที่ฉันต้องบอกเธอนี่นา
อาจารย์คิม : เพราะว่า เขาเป็นลูกชายของฉันใช่มั๊ย เธอถึงได้ปิดบังฉัน
คัง มุยฮี ทำท่าเหมือนจะพูดไม่ออก แต่ก็ตอบไปว่า : เธอพูดเรื่องอะไรน่ะ
อาจารย์ คิม ส่งเสียงคาดคั้นมาตามสาย : เขา.. เป็นลูกชายของฉันใช่ไหม
คัง มุยฮี : อะ …ไม่ใช่ เธอไม่เกี่ยวอะไรด้วยหรอก
อาจารย์คิม : แล้วเขาเป็นลูกของใคร เขาเป็นลูกใครล่ะ
คัง มุยฮี ทำเสียงเย็นชา : ฉันไม่จำเป็นจะต้องบอกเธอ ฉันกำลังยุ่ง แค่นี้นะ
คัง มุยฮี ปิดโทรศัพท์ หน้าตา มีความกังวลใจ
อาจารย์ คิม ค่อยๆ ลดโทรศัพท์ลง หน้าตาฉายแววกังวลคลางแคลงใจเหลือเกิน แล้วเดินลงบันไดมา พอดีเป็นเวลาเดียวกับที่ จุนซาง ก็ เดินขึ้นบันไดมา เช่นกัน ทำให้ทั้งคู่ต่างชะงัก
อาจารย์ คิม มอง จุนซางนิ่ง
จุนซาง พา อาจารย์ คิม ไป นั่งดื่มกาแฟ ในคอฟฟี่ชอป
จุนซาง : เห็น ซังฮวก บอกผมว่า คุณเคยเรียนชั้น ม.ปลาย กับคุณแม่ผมด้วย
อาจารย์คิม : สรุปว่า เธอก็คือ คัง จุนซาง ใช่มั๊ย
จุนซาง : ครับ ผมก็คือ คัง จุนซาง
อาจารย์ คิม พึมพำ : มันเป็นไปได้อย่างไรนี่
จุนซาง : ผมก็อยากพบคุณเหมือนกันนะครับ ผมมีอะไรอยากจะเรียนถาม
อาจารย์คิม : เธอจะถามอะไรฉันเหรอ
จุนซาง : ตอนเจอกันที่สกีรีสอร์ตน่ะ คุณบอกว่าผมเคยไปหาคุณที่มหาวิทยาลัย
อาจารย์คิม : อืม ..เอ้อ..ใช่แล้ว
จุนซาง : เอ้อ... แต่ว่า.. ผมถามคุณเรื่องคุณพ่อผม หรือเปล่าครับ
อาจารย์คิม : เบิกตากว้างเพราะ ไม่คาดคิด พูดเสียงตะกุกตะกัก : อะ ..อะ..พ่อเธอเหรอ
จุนซาง : ครับ คุณพ่อผม เพราะคุณเคยเป็นเพื่อนสนิทกับคุณแม่ผม ผมก็เลยคิดว่า คุณอาจจะรู้ว่าพ่อผมเป็นใครน่ะครับ แล้วคุณทราบหรือเปล่าว่า คุณพ่อผมคือใคร
อาจารย์คิม มอง จุนซาง เขม็งไม่ ละละสายตา อึกอัก แล้วหลบสายตาลง : ไม่รู้สิ ไม่แน่อาจจะเป็นคนที่ฉันรู้จักก็ได้
จุนซาง ทำท่าทางผิดหวัง : คุณไม่ทราบเหรอครับ
อาจารย์คิม จ้องหน้า จุนซาง : เธออยากจะรู้เรื่องพ่อเธอเหรอ
จุนซาง : นิดหน่อยครับ ถึงมันอาจจะฟังดูตลก แต่ผมก็ชักสงสัย
อาจารย์คิม : แล้วคุณแม่เธอ ไม่เคยบอกเหรอว่าใครคือพ่อเธอ
จุนซาง : ไม่ครับ ผมเคยถามครั้งหนึ่ง แต่ท่าทางท่านไม่อยากบอก สงสัยคุณพ่ออาจจะตายไปแล้ว ผมว่าคงไม่มีประโยชน์ที่จะถามท่าน
อาจารย์คิม ดวงตาไหววูบ กับประโยคว่า สงสัยว่าจะตายไปแล้ว
อาจารย์คิม : เขาบอกเธอเหรอว่า คุณพ่อเธอตายไปแล้ว
จุนซาง : ครับ คุณแม่บอกผมอย่างนั้น
อาจารย์คิม ตกใจ นึกไปถึง วันที่ พบกันที่งานแสดงดนตรี และอาจารย์ บอก คัง มุยฮี ว่า จุง ฮุนโซ ( จุง ซินเจา ) ตายไปแล้ว และ คัง มุยฮี ครางว่า.. ฮุนโซ ..ตายแล้วเหรอ
อาจารย์คิม : แปลว่าพ่อเธอตายไปแล้วจริง ๆเหรอ
จุนซาง รู้สึกมีความหวังขึ้นมา : คุณพอจะนึกอะไรออกแล้วเหรอครับ
อาจารย์คิมส่ายหน้า : ไม่หรอก ก็อาจจะเป็นคนที่ฉันเคยรู้จักก็ได้
แล้วอาจารย์คิม ก็ส่ายหน้า : แต่ฉันก็นึกไม่ออก
จุนซาง รู้สึกผิดหวัง : เหรอครับ
อาจารย์คิม ถอนหายใจ : เอ้อ... อันที่จริง ฉันก็ไม่อยากจะก้าวก่ายหรอกนะ แต่ถ้าแม่เธอไม่อยากบอก ก็อย่าไปขุดคุ้ยมันเลย ไม่งั้นแม่เธอคงจะเจ็บปวด ฉันมั่นใจ เขาคงจะบอกเธอเมื่อวันนั้นมาถึง
จุนซาง รู้สึกเศร้าใจ : ครับ
อาจารย์คิม : มองหน้าจุนซางนิ่ง
จุนซาง ยืนกอดอก มองออกไปนอกหน้าต่างกระจก คิดถึงคำพูดของอาจารย์คิม : แต่ถ้าแม่เธอไม่อยากบอก ก็อย่าไปขุดคุ้ยมันเลย ไม่งั้นแม่เธอคงจะเจ็บปวด
มีเสียงเคาะประตู แล้ว คุณคิม ก็เข้ามา
คุณคิมส่งเสียงบ่นตามเคย : แหมคุณนี่เดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่ ผมละตามไม่ทันจริงๆ
จุนซาง ยิ้มให้คุณคิม
คุณคิม : ไม่ต้องมายิ้มหรอก นี่ตกลงจะทำงานรึเปล่า
คุณคิม ยื่นแฟ้มงานไปตรงหน้าของ จุนซาง แล้ว เอาลง โยนลงบนโต๊ะทำงาน ของ ลี มินฮุง
จุนซาง : ผมขอโทษนะ
คุณคิม ถอนหายใจเสียงดัง : เฮ้อ... ผมรู้หมู่นี้คุณกำลังสับสนทางอารมณ์ จะบอกอะไรให้นะ ผมไม่เข้าใจจริงๆ
คุณคิม ตบต้นแขน จุนซาง เบาๆ ที่หนึ่ง แล้วทรุดตัวนั่งบนโต๊ะทำงานนั่นเอง
คุณ คิม : ได้ความทรงจำคืนมา เจอคนรักชั่วนิรันดร์ แล้วคุณยังต้องเครียดเรื่องอะไรกันอีกล่ะ เหอะ
จุนซาง ตอบเหมือน รำพึง เบาๆ ว่า : พ่อผม
คุณคิม รู้สึกไม่เชื่อหูของตัวเอง : อะไรนะ
จุนซาง หันมา : ผมเองก็แก่ปูนนี้แล้ว ไม่รู้ทำไม ยังอยากรู้เรื่องพ่อ ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรคอยกดดันผมอยู่
คุณคิมพยักหน้า ทำเสียงจึกจั๊ก : อยากให้ผมช่วยหาทางรักษาคุณมั๊ยล่ะ
จุนซาง หันมาอีกที
คุณคิม : คุณจะต้องหายแน่ถ้าคุณได้เป็นคุณพ่อ เพราะคุณอยากจะแต่งงานยังไงเล่า
จุนซางทำเสียงอ่อนใจ : คุณคิม
คุณคิม : เอ้อ ..ช่างมันเถอะ
คุณคิมลุกขึ้นยืน เอามือเช็ดหน้าตัวเองไปมา ด้วย : ตามหาพ่อ...ไม่เหมาะกับภาพลักษณ์ของ ลี มินฮุง หรอกนะ รู้มั๊ย จริงสิ ยูจิน โทรมาหาตั้งหลายครั้งแล้ว วันหลังหัดพกโทรศัพท์บ้างสิ ท่าทางเขาคงเป็นห่วง รีบโทรหาเสียสิ
แล้วคุณคิม ก็ออกจากห้องไป จุนซาง ยังมีสีหน้าครุ่นคิดเหมือนเดิม
ถ้า จุนซาง ย้ายไปเรียนที่ ชุนชง เพื่อตามหาพ่อ จุนซาง ก็ม่น่า ไปตามหาพ่อ ที่เสียชีวิตไปแล้วนี่นา เพราะถ้าพ่อตายไปจริง ยังไงเสีย จุนซาง ก็ไม่มีวันได้พบหน้าพ่อ จุนซาง สงสัยว่า ทำไมแม่ต้องปิดบังเรื่องนี้ แม้แม่จะบอกว่า แม่มีเพียง จุนซาง คนเดียว ก็เพียงพอแล้ว แต่ก็น่าจะคำนึงถึงจิตใจของเด็กอย่าง จุนซาง ที่ไม่มีพ่อด้วย แม้แม่จะคอยเฝ้าดูแลเอาใจใส่ลูกชายคนเดียวมาโดยตลอด ก็ควรเอาใจใส่ จิตใจของ จุนซาง บ้างว่าอยากได้อะไรมิใช่หรือ จุนซาง ใคร่ครวญไปมา ในสมองของ จุนซาง สับสน อลเวง เหลือเกินแล้ว
อาจารย์คิม ในห้องทำงาน หยิบภาพถ่ายเพื่อนรักสมัยเรียน ม.ปลาย ที่ยืนอยู่ 3 คน มาดู ท่าทางใช้ความคิดหนัก พึมพำเบาๆว่า ฮุนโซ แล้วก็ก้มมองภาพนั้นนิ่งนาน
เมื่อขึ้นนั่งบนรถที่ไปรับที่สนามบิน เลขา บอกว่า : ลูกชายคุณแวะมา บอกให้คุณโทรหาทันทีที่คุณมาถึงครับ
คัง มุยฮี ไม่ตอบว่าอะไร
เลขาถามว่า : แล้วไปโรงแรมเลยมั๊ยครับ
คัง มุยฮี : ไม่ ตรงไปชุนชงก่อน
เลขา หันมาสั่ง พนักงานขับรถ : ไปชุนชงนะ
ยูจิน วิ่งลงมา ข้างล่าง มองหา จุนซาง
จุนซาง หันมายิ้มให้ ยูจิน ยูจินเดินเข้าไปหา พอถึงตัว จุนวาง ก็ยกมือมาทุบ จุนซาง
จุนซาง งง : อะไรน่ะ
ยูจิน : ถามได้ หายไปไหนมา โทรไปก็ไม่รับ ฉันเป็นห่วงเธอ รู้มั๊ย
จุนซาง : ผมถึงได้มานี่ไง
ยูจิน ทำท่างอนนิด : คุณหายไปไหนมา
จุนซาง คว้ามือ ยูจิน มาจับไว้แน่น : ไปเดินเล่นกันเถอะ
จุนซาง พายูจิน ไปเดินเล่นตามถนนที่ไม่ค่อยมีผู้คนท่าทางเคลียคลอ จู่ๆ ยูจิน ก็หัวเราะขึ้นมา
จุนซางถามว่า : หัวเราะอะไร
ยูจิน : จู่ ๆ ก็นึกถึงพ่อกับแม่ พวกท่านก็เคย เดท แบบนี้เหมือนกันรู้มั๊ย
จุนซาง : ออกมาเดินเล่นแบบนี้น่ะเหรอ
ยูจิน พยักหน้า : อืม.. พวกท่านไม่ค่อยมีสตางค์ แต่อยากอยู่ด้วยกันนานๆ ก็เลยเดินไปเรื่อยๆ และก็คุยกันไปเรื่อยๆ แบบนี้แหละ ถ้าเอาระยะทางมาคำนวณนะ ก็คงมากกว่า รอบโลก เป็น สิบ เท่าเลย ( โอ้โฮ พูดเกินจริงไปหรือเปล่าคะ คุณ ยูจิน คำพูดนี้ แม่ของ ยูจิน เป็นคนเล่า เพื่อให้ ยูจิน เข้าใจความรักของพ่อแม่ ที่มีต่อกันนั่นเอง)
จุนซาง และ ยูจิน ต่างหัวเราะ ให้กัน
จุนซาง : คุณพ่อคุณเป็นคนยังไงเหรอ
ยูจิน : ท่านเป็นคนอ่อนหวานและอ่อนโยน เหมือนเธอไง
จุนซาง หันไป และทวนคำ : อ่อนหวานและอ่อนโยนเหรอ
ยูจิน พยักหน้า : ฉันยังจำได้นะ หิมะตกครั้งแรกตอนฉันอายุ สิบ ขวบ ตอนนั้นใกล้จะมืดแล้ว เราเดินบนหิมะกัน ฮีจิน อยู่บนหลังแม่ฉัน ส่วนฉันก็อยู่บนหลังของพ่อ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้รู้ว่า แผ่นหลังของพ่อน่ะมันอบอุ่นสักแค่ไหน
จุนซาง เกิดความรู้สึกวังเวงในหัวใจที่ไม่มีความหลังให้ระลึกถึงพ่อ ของตัวเอง ไม่เคยลิ้มรสความสุขของการมีพ่อเลย : สรุปว่า นั่นก็คือ คุณพ่อของคุณ
ยูจิน : นี่เป็นเพราะคุณพ่อเธอใช่มั๊ย หลายวันมานี่เธอถึงดูเครียดมาก ใช่มั๊ย ล่ะ
ยูจิน ยังจำได้ที่ จุนซาง บอกว่า มาตามหาพ่อ สายตาของ จุนซาง ในครั้งนั้น เต็มไปด้วยความคิดถึง แม้แม่ของ จุนซาง จะแต่งงานใหม่ แต่ จุนซาง ก็ไม่ยอมให้ใครมาแทนที่พ่อ ที่แท้จริงเลย
จุนซาง หันไปมองยูจิน : เปล่าหรอก ทำไมต้องเครียดด้วยล่ะ เมื่อมีคุณอยู่ใกล้ๆ
จุนซาง : เพราะดีนะ เข้าไปดูกันมั๊ย
ทั้งคู่ เดินขึ้น บันไดโบสถ์ เมื่อถึงประตู จุนซาง ค่อยๆ เปิดบานประตูออก เมื่อเข้าไปแล้ว ก็ ค่อยๆปิดประตู ตามหลัง( ยงจุนทำท่าทางน่ารักอีกแล้ว)
มีคนกลุ่มหนึ่ง กำลังซ้อมทำพิธีแต่งงานหัดสาบานต่อพระเจ้า ท่าทางว่าที่เจ้าสาวขี้เล่น จุนซาง พา ยูจิน ไปนั่งแถวหลัง ดูการซ้อมทำพิธี
คนทำพิธี : ทั้งคู่สัญญาว่าจะรักและเคารพกันตราบเท่าชีวิตจะหาไม่ หรือไม่
: แล้วคุณจะยินดี รับบุตรที่พระเจ้าประทานให้ และเลี้ยงดู สั่งสอน เด็กคนนั้นให้เป็นคนดี แก่สังคมหรือไม่
: พวกคุณ ได้สาบานร่วมกันที่จะเป็นสามี ภรรยา พวกคุณสองคนยืนจับมือกันในโบสถ์อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
ยูจิน พูดเบาๆกับ จุนซางว่า : พวกเขาคงจะแต่งกันพรุ่งนี้
จุนซาง : น่าอิจฉาจัง
ยูจิน เอาแขนตัวเอง กระแทก จุนซาง เบาๆ แบบ เขินอาย จุนซาง ยิ้มชอบอกชอบใจ
เสียงว่าที่เจ้าบ่าว สาบานว่า : ผม คิม โปรเด ขอรับเธอเป็นภรรยา และจะขอสัญญาว่าจะรักเธอ และจะอยู่ดูแลเธอ เคียงข้างเธอไม่ว่ายามทุกข์ หรือยามสุข ไม่ว่ายามอยู่ดีหรือเจ็บป่วย
ว่าที่เจ้าสาว สาบานบ้าง
คนทำพิธี : ขอประกาศว่า ทั้งสองคน เป็นสามีภรรยา กัน ณ บัดนี้
มีเสียงเย้ แสดงความยินดี และปรบมือจากกลุ่มที่มาซ้อมทำพิธี
คณะ ซ้อมทำพิธี ออกไปหมดแล้ว
ส่วน จุนซาง ยังยืนอยู่ ก้มลงอ่านคำสาบานตนต่อพระเจ้าในแผ่นกระดาษที่ถืออยู่ในมือ
ยูจิน : ก็สวดมนต์ไง
จุนซาง : สวดอะไรเหรอ
ยูจิน : ฉันดีใจที่มีวันนี้ และได้มาอยู่กับเธอ แบบนี้ตลอดไปไงล่ะ เธอก็สวดด้วยสิ
ยูจิน เคยอธิษฐาน เมื่อครั้งที่ ลี มินฮุง ประสบอุบัติเหตุ คำขอของ ยูจิน ในครั้งนั้น เป็นจริง ลี มินฮุง ยังมีชีวิตอยู่ และกลับมาเป็น คัง จุนซาง ในวันนี้ แทนที่จะอธิษฐานขออะไรใหม่ ยูจิน อยากจะขอบคุณพระเจ้า มากกว่าที่ให้เธอ และ จุนซาง ได้มีวันนี้ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้
ยูจิน หรี่ตาลืมขึ้นดู จุนซาง ก็เห็น จุนซาง ยังยืนอยู่ที่เดิม : รีบสวดสิ
จุนซาง เดิน ไปนั่งข้างๆ ยูจิน ( มี คลิป NG ที่ ยงจุน นั่งเก้าอี้ แล้ว ผลุบลงไป ตลกมากด้วยค่ะ)
ยูจิน แอบลืมตา ดู อีกที : เร็วเข้า รีบสวดสิ
จุนซาง พูด อย่างนุ่มนวล : มีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งผมรัก ผมอยากจะแก่เฒ่าไปพร้อมๆกับเธอ ผมอยากจะมีลูกเยอะๆ ที่จะอยู่ดูแลเธอ และผมอยากจะเป็นพ่อของพวกเขา ผมอยากเป็นมือที่แสนอบอุ่น และอยากเป็นขาที่แข็งแรง
ยูจินที่ ลืมตาฟัง จุนซางตั้งแต่ต้น หันไปทางจุนซาง ซาบซึ้งในถ้อยคำของ จุนซาง จนน้ำตาคลอคลอง ผู้ชายคนหนึ่งสามารถให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่คนรัก และอยากมีลูกกับเธอ คำอธิษฐานนี้ ตราตรึงในหัวใจ ของ ยูจิน นี่เป็นคำอธิษฐาน จากใจจริง ของ จุนซาง
แม่ของ ยูจิน แปลกใจ แต่ก็ต้อนรับอย่างเจ้าของบ้านเต็มที่
แม่ของ จุนซาง และ แม่ของ ยูจิน นั่งตรงข้ามกันของโต๊ะ ดื่มชา ที่แม่ของยูจิน นำมาเสริฟ
คัง มุยฮี : คุณทราบมั๊ยคะว่าฉันมาที่นี่ทำไม
แม่ของ ยูจิน : เอ่อ..... ไม่ทราบค่ะ ( ฉันจะไปรู้ได้ยังไงคะคู๊น)
คัง มุยฮี : ลูกสาวคุณ ชื่อ จุง ยูจิน ใช่มั๊ยคะ
แม่ของยูจิน : ค่ะ
คัง มุยฮี : เอ้อ... คุณก็คงเคยได้ยินชื่อ คัง จุนซาง
คัง มุยฮี เว้นจังหวะ แล้วก็พูดต่อว่า : จุนซาง เป็นลูกชายของฉัน
แม่ ยูจิน ตะลึงแบบคาดไม่ถึง นั่งมองหน้า คัง มุยฮี แล้วก็ต้องเบือนหลบสายตาลง
จุนซาง และ ยูจิน ยืนสบสายตา สื่อความรักให้กันและกัน
ยูจิน พยักหน้ารับคำอย่างแสนสุขใจ อิ่มเอิบในหัวใจ
จุนซาง ค่อย ๆ ยื่นหน้าเข้าไปหา ยูจิน ที่ยืนหลับตา รอคอย จุนซาง
จุนซาง ค่อยๆประทับ ริมฝีปากตัวเอง จูบ ยูจิน อย่าง นุ่มนวลอ่อนหวาน และท่วมท้นด้วยความรักในตัว ยูจิน
Bench by a river:
Yoo-jin : Jun-sang. I ... I wanted to tell you that, too. I regretted not being able to tell you that all along. You don't know how much I wanted to tell you ... that I love you. What else do you remember? Do you remember anything else?
Jun-sang :Yeah ... A lot of my memories are about school. Getting punished by the teacher ... The first day I transferred here, I got off a different bus stop from you. I remember going to the cabin up in the mountains with the guys ...
Yoo-jin: You remember our friends? Yong-kook, Jin-sook and Chea-reen?
Jun-sang : I remember being mean ... Hurting you a lot ... I remember the Polaris, too ... Yoo-jin, why you named the company Polaris ... Now I know.
Propose in a church:
Yoo-jin : I'm praying that I'm grateful for today and that I can be here with you like this. You pray, too.
Jun-sang : There is a woman I love. I wish to accompany this woman. I want to grow old with her. I would like to have children that take after her and be their father. I would like to be their warm hands and strong legs ... I love you. ... Will you marry me?